GIFT ยอมรับรายได้ไตรมาส 2 แผ่ว ผลกระทบ “เมจิกสกิน” แต่มั่นใจทั้งปีรายได้ทะลุ 800 ล้านบาท “พีรเจต” ลั่นเงินสดเพียบ ยันปีนี้จ่ายปันผลสูง พร้อมลุยซื้อกิจการต่อยอด
นายพีรเจต สุวรรณนภาศรี ประธานกรรมการบริหารบริษัท แกรททิทูด อินฟินิท (GIFT) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโต 5-10% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 747 ล้านบาท หรือมีรายได้ทะลุ 800 ล้านบาท แม้ว่าไตรมาส 2 มีแนวโน้มว่ารายได้จะลดลง 10% เนื่องจากได้รับผลกระทบกรณี “เมจิกสกิน” ซึ่งทำให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อและสั่งผลิตสินค้าออกไป โดยขณะนี้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว และคำสั่งซื้อที่อั้นไว้ดังกล่าวจะทำให้รายได้ไตรมาส 3 เติบโตอย่างมาก
“ปีนี้รายได้น่าจะทะลุ 800 ล้านบาท เนื่องจากเราดึงลูกค้ากลุ่มที่สั่งซื้อวัตถุดิบขั้นต้นมาผลิตเครื่องสำอางค์ (Ingredient Materials) รายใหญ่ มาได้ 2-3 เจ้า บางเจ้าผูกสัญญายาว 3 ปี ส่วนธุรกิจผลิตสินค้า OEM จะเติบโตเช่นกัน เพราะทีมขายของเราทำงานเชิงรุก และตามปกติแล้วธุรกิจ OEM จะเติบโตไปตามธุรกิจ IM ขณะที่การผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัททั้ง 3 แบรนด์ ปีนี้เราตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 5% จากตอนนี้ที่มีสัดส่วนรายได้ไม่ถึง 1%”นายพีรเจตระบุ
สำหรับปีที่แล้ว GIFT มีรายได้ 747 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจ IM คิดเป็นสัดส่วน 95.95% หรือ 717 ล้านบาท ธุรกิจ OEM สัดส่วน 3.88% หรือ 26.88 ล้านบาท และธุรกิจผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์บริษัท (OBM) 3 แบรนด์ คือ DE L’AMOUR , Lady Evil และMoonoi (หมูน้อย) 0.17% หรือ 1.3 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรก รายได้ 93.62% หรือ 186 ล้านบาท ยังอยู่ในธุรกิจ IM และรายได้จากธุรกิจ OBM มีสัดส่วนเพิ่มเป็น 0.39% หรือ 7.8 แสนบาท
นายพีรเจต กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นไป บริษัทจะนำสินค้าแบรนด์ Moonoi (หมูน้อย) ออกวางขายในซุปเปอร์มาเก็ตและห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นจะนำสินค้าภายใต้แบรนด์ Lady Evil ออกวางขายเพิ่มเติม โดยบริษัทตั้งงบโฆษณาทั้งออนไลน์และออฟไลน์ไว้ที่ 3-4 ล้านบาท และภายในปีนี้หรือไม่เกินปีหน้า GIFT จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 2 แบรนด์ โดยรายได้จากธุรกิจ OBM ที่เพิ่มขึ้น จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้น
นายพีรเจต ระบุว่า ขณะนี้บริษัทมีเงินสดเหลืออยู่ในมือสูงถึง 440 ล้านบาท เมื่อหักลบเงินที่ต้องใช้ลงทุนโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่ 100 ล้านบาท และเงินสดที่จะเพิ่มเข้ามาระหว่างปี คาดว่าบริษัทจะมีเงินสดไม่ต่ำกว่า 410 ล้านบาท ซึ่งเงินสดส่วนหนึ่งจะถูกกันเป็นเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราที่มากกว่าปกติ และเงินบางส่วนจะนำไปซื้อกิจการที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน เพื่อขยายฐานสินค้าและฐานลูกค้าให้กับ GIFT เร็วขึ้น เนื่องจากการสร้างสิ่งใหม่ๆต้องใช้เวลา