PF-GRAND ตั้งเป้าปี 63 รายได้รวม 2.2 หมื่นลบ.เปิดบ้านป้องกันฝุ่น PM2.5

HoonSmart.com>>พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” และ “แกรนด์ แอสเสท” เผยแผนธุรกิจปี 2563 ตั้งเป้าขาย 18,000 ล้าน เดินหน้าโครงการร่วมทุนเน้นแนวราบ ติดตั้งระบบ “ป้องกันฝุ่น PM 2.5”   ด้านแกรนด์ แอสเสทฯ วางเป้าขาย 3,000 ล้าน เตรียมพรีเซลส์วิลล่าหรู จ.ระยอง ส่วนธุรกิจโรงแรม ปีที่ผ่านมาได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวดันรายได้โต

นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ และ นางสาวศิริรัตน์ วงศ์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการเงิน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) ร่วมด้วย นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางสาววิลาวัณย์ เหลืองนาคทองดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) ร่วมกันแถลงถึงแผนธุรกิจของกลุ่มบริษัท ประจำปี 2563

นายชายนิดเปิดเผยว่า ปี 2562 สามารถทำกำไรสูงสุดสร้างสถิติใหม่ในรอบ 16 ปี แม้ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะได้รับผลกระทบจากหลายๆ ปัจจัย ส่วนแผนงานปีนี้ ยังคงเดินหน้า ร่วมทุนกับพันธมิตรต่างประเทศ   เปิดตัว  2 โครงการร่วมกับฮ่องกงแลนด์ มูลค่ารวม 13,500 ล้านบาท ร่วมมือกับ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี นอกเหนือจากคอนโดมิเนียม ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ มูลค่า 6,000 ล้านบาทแล้วจะร่วมกันพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในทำเลราชพฤกษ์ตัดใหม่ 2 โครงการ มูลค่า 3,900 ล้านบาท ส่วนการร่วมทุนกับ เซกิซุย เคมิคอล  จะขยายเพิ่มอีก 1 ทำเล มูลค่ารวม 3,100 ล้านบาท  การร่วมทุนขณะนี้มีมูลค่าทั้งสิ้น 26,500 ล้านบาท

ปีที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จจาก “ยู คิโรโระ” คอนโดมิเนียมในประเทศญี่ปุ่น  มีรายได้เข้ามา 1,700 ล้านบาท ปัจจุบันโครงการมียอดขายแล้ว 2,600 ล้านบาท หรือ 70% ของทั้งหมด คาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ปิดโครงการได้ภายในปีนี้

นายวงศกรณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า PF ตั้งเป้าขายไว้ที่ 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 10,000 ล้านบาท โครงการร่วมทุน 1,500 ล้านบาท คอนโดมิเนียมในประเทศ 4,500 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมประเทศญี่ปุ่น 2,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 12 โครงการ มูลค่ารวม 18,560 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 10 โครงการ มูลค่า 17,110 ล้านบาท และทาวน์เฮ้าส์ 2 โครงการ มูลค่า 1,450 ล้านบาทเป็นแนวราบทั้งหมด ซึ่งเป็นตลาดที่ยังเติบโต  บริษัทไม่มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ เนื่องจากตลาดชลอตัว  ยังมีซัพพลายเหลืออยู่มาก

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการร่วมมือกับ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย(SCC) พัฒนาบ้าน “ป้องกันฝุ่น PM2.5”   นอกจากการนำเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นมาใช้กับบ้านในโครงการร่วมทุนกับ เซกิซุย เคมิคอล แล้ว ยังเป็นรายแรกในการพัฒนาระบบกรองอากาศป้องกันฝุ่น PM2.5 ติดตั้งในโครงการบ้านเดี่ยวทุกแบรนด์ ทุกระดับราคา และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ด้วยการปลูกต้นไม้ใหญ่ 5,000 ต้นในโครงการต่างๆ การติดตั้งแผงโซล่าร์ผลิตไฟฟ้า เพื่อใช้พลังงานสะอาดในสำนักงานและคลับเฮ้าส์ รวมทั้ง ยังมีการเปิดตัวแบบบ้านใหม่ รวม 26 แบบในทุกระดับราคา เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า และช่วยผลักดันยอดขายโครงการแนวราบอีกทางหนึ่ง

ด้านแผนการดำเนินงานของ แกรนด์ แอสเสทฯ นายวิทวัสเปิดเผยว่า  ในปีนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตั้งเป้าขายไว้ 3,000 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 2,500 ล้านบาท และ โครงการวิลล่าในจ.ระยอง 500 ล้านบาท  กำหนดพรีเซลเฟสแรกในช่วงไตรมาส 2 เป็นวิลล่าหรู 103 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,307 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายจะเป็นตลาดทั้งในและต่างประเทศ รองรับการเติบโตของจ.ระยองที่จะเกิดขึ้น ทั้งจากเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา

ด้านธุรกิจโรงแรม ปีที่ผ่านมาได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ ทำให้รายได้เติบโต ปีที่ผ่านมายังเปิดดำเนินการโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท เต็มปี ทำให้รายได้ในปี 2562 เติบโตถึง 47.7%

ในขณะที่ไตรมาส 1/63   สถานการณ์ไวรัสระบาดมีผลกระทบอย่างมากกับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะโรงแรมที่มีฐานลูกค้าหลักเป็นชาวจีนและธุรกิจไมซ์ บวกกับปีนี้บริษัทมีแผนปรับปรุงโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ส่งผลให้ประมาณการรายได้ปีนี้ลดลง คาดว่าธุรกิจโรงแรมภายในประเทศปีนี้ จะมีรายได้รวม 2,000 ล้านบาท หรือลดลง 22.1% เมื่อเทียบกับปี 2562

สำหรับรายได้ในปีนี้ นางสาวศิริรัตน์เปิดเผยว่า ประมาณการไว้ที่ 22,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ประกอบด้วย รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 16,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นของ PF  15,400 ล้านบาท รวมโครงการในประเทศญี่ปุ่น และเป็นของ  GRAND 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ จะมีรายได้จากธุรกิจโรงแรม 3,300 ล้านบาท มาจากในประเทศ 2,000 ล้านบาท โรงแรมในญี่ปุ่น 1,300 ล้านบาท อีกทั้งยังจะมีรายได้จากการขายที่ดินและการลงทุน 2,000 ล้านบาท และธุรกิจให้เช่า 300 ล้านบาท