เกมส์หุ้น DIGI ยังเดินต่อ ‘บิ๊กโค้วยู่ฮะ’ ซื้อทำไม?

อะไรก็เกิดขึ้นได้ในตลาดหุ้นไทย ABC หุ้นอภินิหาร ตายแล้วก็เกิดขึ้นใหม่ เปลี่ยนชื่อตั้งหลายครั้ง จาก บางกอกไนล่อน ( BNC ) มาเป็น แอสเซท ไบร์ท หรือ ABC และปัจจุบันเป็น บริษัท ดิจิตอลเทค แพลนเน็ต (DIGI) ตามธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

ปัจจัยพื้นฐานแย่มากๆ แต่ทำไมราคาหุ้นกลับวิ่งแรงเป็นกระทิงขวิด จากปกตินิ่งๆอยู่บริเวณ 2-3 บาท ผ่านไปไม่กี่เดือน กระโดดพรวดเดียวไปไกลถึง 63.50 บาท ในเดือนก.ย. 2557

strong>ใครเข้าออกถูกจังหวะโกยกำไรมหาศาล 2,000-3,000 %

แต่ทำไม สำนักงานคณะคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กลับตรวจสอบพบความผิดปกติ แค่ราคาปิดสูงขึ้นจาก 2.38 บาทเป็น 7.80 บาทเท่านั้น และนำไปสู่การปรับทางแพ่งรวมกัน 120 ล้านบาท จากนักลงทุน 7 คน นำโดยนายสาธิต รุ่งวัฒนภักดิ์ ฐานสร้างราคาหุ้นโดยใช้วิธี “โยน” หุ้นบิ๊กล็อตกันเอง

เห็นราคาหุ้นพุ่งกระฉูดขนาดนี้ น่าจะปรับเป็นเงินสูงกว่า 120 ล้านบาท

ราคาหุ้น DIGI

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ราคากระชากไปได้ไกลขนาด 63.50 บาท ไม่ได้เกิดจากแรงปั่นราคา แต่เป็นการปั่นกระแสและหุ้นส่วนใหญ่หรือประมาณ 95% ตกอยู่ในมือของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่

ปั่นไม่ไม่ยากเลย ถ้ามีหุ้นหมุนเวียนในตลาดเพียง 4-5% แต่ความต้องการซื้อไหลบ่าเข้ามาล้นทะลัก ราคาก็ต้องวิ่งไปไกลผิดปกติขนาดนี้

แต่น่าคิด ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นหลายร้อยล้านบาทตกอยู่กับใคร?

ปัจจุบัน หุ้น DIGI ยังคงมีกระแสและน่าติดตามอยู่หลายเรื่อง

หนึ่งในนั้นคือ นายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง ขายหุ้นออกมา 2 ล็อตใหญ่ มีเป้าหมายอะไร
ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 54.23% ลงมาเหลือเพียง 21.97% หรือจะเตรียมเงินไว้ให้นักลงทุน 7 คนจ่ายค่าปรับทางแพ่งรวมกันกว่า 120 ล้านบาท

นายปรเมษฐ์จะทำอย่างไรกับหุ้นที่เหลืออยู่ เพราะถูกลงโทษด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งแล้ว ก.ล.ต. ยังสั่งห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน เป็นเวลา 3 ปี ด้วย

“ทำไม นายจิรวุฒิ คุวานันท์ บอสใหญ่ “โค้วยู่ฮะ” ดีลเลอร์รถกระบะอีซูซุรายใหญ่ภาคอีสาน และนักลงทุนในบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง เข้ามาซื้อหุ้น DIGI ล็อตแรกจากนายปรเมษฐ์ จำนวน 316 ล้านหุ้น หรือ 20% เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2561 และเกิดคำถามว่านายจิรวุฒิเป็นกลุ่มเดียวกับ นายธานินทร์ อินทรารักษ์สกุล กรรมการบริหารบริษัท เอเซียบิสซิเนสไกด์ส ผู้จัดทำเว็บไซต์ CheckRaKa.com ที่เพิ่งเข้ามาซื้อหุ้นล็อตสองจากนายปรเมษฐ์ จำนวน 173 ล้านหุ้น หรือ 11% หรือไม่”

นายจิรวุฒิ ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 129 ล้านบาท หากซื้อหุ้นในราคาตลาดตอนนั้น หุ้นละ 0.41 บาท ส่วนนายธานินทร์ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 98 ล้านบาท ทั้งสองคนมีวัตถุประสงค์อะไร ถึงกล้าตัดสินใจทุ่มเม็ดเงินร่วม 227 ล้านบาท มาลงทุนกับบริษัทที่มีผลขาดทุนมายาวนาน ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2561 มียอดขาดทุนสะสมอยู่ที่ 448 ล้านบาท

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเอง ยังเกิดข้อสงสัย และสอบถามข้อมูลจากบริษัท เรื่องโครงสร้างผู้ถือหุ้น และโครงสร้างการบริหารงาน โดยบริษัท ชี้แจงว่านายปรเมษฐ์ ได้ขายหุ้น 20%ให้กับ Strategic Partner เพื่อให้เข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจของบริษัทในอนาคต

ล่าสุดบริษัทยืนยันว่ายังคงดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ e-Busines ทั้ง e-Commerce และ e-Payment

นอกจากนั้นยังเกิดคำถามคาใจว่า ทำไมผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ถึงกอดหุ้นแน่นและนาน(ผิดปกติ) นางสาวฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือครูอ้อย เข็มทิศชีวิต ถืออยู่จำนวน 23,710,220 หุ้น คิดเป็น 1.50% ไม่ขายออกและไม่ซื้อเพิ่ม ไม่ว่าราคาหุ้นจะเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงแรงแค่ไหนก็ตาม เสียโอกาสทำกำไรเป็นพันล้านบาท

ขณะนี้ยังต้องติดตามดูเกมส์หุ้น เกมส์ธุรกิจของ DIGI กันต่อไป

“ปรเมษฐ์” จะทำอย่างไรกับหุ้นที่เหลืออยู่ในมืออีก 21.97% และ “บิ๊กโค้วยู่ฮะ” จะอยู่ในสถานะใด จะเป็นเพียงนักลงทุนรายใหญ่เหมือนการถือหุ้นในหลายๆตัว หรือจะเข้ามากุมบังเหียนเปลี่ยนธุรกิจใหม่ล้างภาพ DIGI เหมือนที่แล้วมา