บลจ.วีจ่อออกกองตลาดเกิดใหม่ช้อนหุ้นถูก-ทิสโก้ชูจีน

HoonSmart.com>> บลจ.วี จ่อออกทริกเกอร์ฟันด์ช้อนซื้อหุ้นตลาดเกิดใหม่ราคาร่วง กำไรบจ.โต ตลาดหุ้นจีนหนุน ด้านบลจ.ทิสโก้ชูหุ้นจีน กลุ่มเทคโนโลยีแนวโน้มเติบโต

นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วี เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ลงทุนหุ้นตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากมองแนวโน้มน่าสนใจ ประกอบกับดัชนีปรับตัวลดลง 8% หลังจากเกิดไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจ ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในดัชนีกลุ่มตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มเติบโตเป็นเลขสองหลัก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นไทยซึ่งกำไรบจ.เติบโตไม่มาก จึงมองตลาดเกิดใหม่น่าสนใจกว่า

นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยกดดันจากงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ที่ยังไม่ออกมาหลังเกิดกรณีเสียบบัตรตามที่เป็นข่าว ซึ่งหากงบใช้จ่ายของรัฐบาลออกมา น่าจะหนุนดัชนีสู่ระดับ 1,700 จุดได้

“การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา นอกจากทำให้หุ้นปรับตัวลงแรงแล้ว ยังส่งผลให้ตัวเลขคาดการณ์ใช้น้ำมันดิบของจีนลดลง ซึ่งกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานของไทย ซึ่งมีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ ดังนั้นหากหากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสเริ่มนิ่งและตัวเลขพีคแล้ว ก็น่าจะถึงจุดต่ำสุดของดัชนี หุ้นก็ก็น่าจะพลิกกลับขึ้นมาได้ ซึ่งดัชนีระดับปัจจุบันถือว่าน่าสนใจ”นายอิศรา กล่าว

ด้านนายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ทิสโก้ กล่าวว่า ช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,500 จุด ถือเป็นระดับที่น่าสนใจในการเข้าลงทุน โดยเฉพาะการออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ แต่บริษัทฯ เตรียมนำเสนอกองทุนหุ้นจีน เน้นลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในช่วงกลางเดือนก.พ.นี้ จึงยังไม่ได้พิจารณาว่าจะออกทริกเกอร์หุ้นไทย

“หาก SET INDEX ลงต่อก็น่าสนใจและอาจพิจารณาออกทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทย ซึ่งปกติเวลาเวลาออกกองทุนจะกำหนดผลตอบแทนเป้าหมาย 5% ซึ่งการที่ดัชนีหลุด 1,500 จุด ยิ่งทำให้อัพไซด์เปิดกว้างขึ้น”นายสาห์รัช กล่าว

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยมองว่า ขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาว่าคุมได้เร็วแค่ไหน จึงต้องติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาว่าเริ่มนิ่งหรือยัง แต่ในที่สุดเชื่อว่าจะคุมสถานการณ์ได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา หลังจากนั้นจะทำให้นักลงทุนกลับมาดูปัจจัยพื้นฐานหุ้น จึงมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในระดับปัจจุบันเป็นโอกาสในการทยอยลงทุน