LPH มั่นใจกำไรปีนี้นิวไฮ พร้อมเดินทางลงทุน-ซื้อโรงพยาบาล สร้างศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์เพิ่ม หวังสร้างรายได้เติบโตแข็งแกร่ง
ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายว่าในปีนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 15% จากปีที่ผ่านมาที่บริษัทมีรายได้ 1,524 ล้านบาท เนื่องจากการปรับขึ้นค่ารักษาประกันสังคมเต็มปี โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าประกันสังคม 1.61 แสนราย ประกอบกับรับรู้รายได้จากการทยอยเปิดศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์อีก 4 ศูนย์ รวมถึงรับรู้กำไรจากการขายที่ดินราว 50 ล้านบาท และรับรู้กำไรพิเศษจากการลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล
“คาดว่ากำไรสุทธิปี 2561 จะสูงกว่าปี 2560 ที่ผ่านมา ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานคาดว่าดีต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% จากปีก่อน คาดว่าทั้งรายได้และกำไรในปีนี้จะนิวไฮ”ดร.อังกูรกล่าว
ดร.อังกูร ยังกล่าวว่า ล่าสุด LPH เปิดให้บริการตึกศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (ตึกวีไอพี) อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ครบ 9 ศูนย์ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้การชำระค่าบริการเป็นเงินสดเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ค่ารักษาพยาบาลต่อบิลเพิ่ม 5-10 % จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1,900 บาทต่อบิล เนื่องจากมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพิ่มขึ้น ขณะที่ในปีนี้บริษัทฯจะใช้เงินลงทุน 150 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ที่จะทยอยเสร็จในปีนี้ และอาคารจอดรถ
ส่วนแผนการลงทุนในปี 2561 จะมีการสร้างโรงพยาบาลลาดพร้าว ลำลูกกา มีจำนวน 180 เตียง อยู่ระหว่างเตรียมการขออนุญาตก่อสร้างและจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ช่วงปลายปีนี้ หรืออย่างช้าต้นปี 2562 คาดว่าใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี ซึ่งจะทยอยใช้เงินที่ได้จาก IPO โดยเงินลงทุนในส่วนของโรงพยาบาลราว 600 ล้านบาท และโครงการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 100 ห้อง ใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกับโรงพยาบาล ลาดพร้าว ลำลูกกา
สำหรับนโยบายการเข้าลงทุนในโรงพยาบาลอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและมีกำไร คาดได้ข้อสรุปการลงทุนโรงพยาบาลในภาคตะวันออก ภายในไตรมาส 1/2561 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้ที่ปรึกษาอิสระประเมินราคาเหมาะสม โดยบริษัทได้เตรียมเงินจำนวน 250-300 ล้านบาท เพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 25%
นอกจากนี้ ในปี 2561 ทาง LPH มีแผนจะเปิดศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Excellent Center) เพิ่มอีก 4 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์สุขภาพและสตรี ศูนย์สุขภาพเด็ก ศูนย์ตรวจสุขภาพ และศูนย์ทันตกรรม จากปัจจุบันที่มีศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 5 แห่ง ได้แก่ ศูนย์โรคตาและเลสิค ศูนย์ความงามและเลเซอร์ ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ ศูนย์สมองและระบบประสาท และศูนย์กระดูกและข้อ
สำหรับโรงพยาบาล ลาดพร้าว ที่มีผู้ประกันตนประกันสังคมอยู่ที่ 1.61 แสนคน ซึ่งเต็มโควต้าแล้ว และปีหน้ามีแผนจะขอโควต้าเพิ่มอีก 50,000 คน โดยจะเพิ่มห้องตรวจผู้ป่วยประกันสังคมอีก 20 ห้อง และในปี 2562 เตรียมสร้างโรงพยาบาลประกันสังคมใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาขอเช่าที่ดินพื้นที่ไร่ครึ่ง เพื่อรองรับผู้ป่วยประกันสังคมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในเขตลาดพร้าว จากการที่รถไฟฟ้าสายสีเหลืองผ่าน มีธุรกิจขยายมากขึ้น รวมทั้งหมู่บ้านและคอนโดฯเกิดใหม่เป็นจำนวนมาก โดยผลการสำรวจประชากรในพื้นที่เขตลาดพร้าวปัจจุบันมีนับล้านคน
นอกจากนี้ LPH ยังมีแผนก่อสร้างอาคารจอดรถอัจฉริยะในปี 2561 ใช้เงินลงทุนราว 90 – 100 ล้านบาท สามารถรองรับการจอดรถได้ราว 500 คัน เพื่อรองรับผู้มาใช้บริการของโรงพยาบาลลาดพร้าว และปีนี้จะใช้เงินลงทุน 50 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ที่จะทยอยเสร็จในปีนี้
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ LPH จะมาจากผู้ป่วยประกันสังคม 45% และผู้ป่วยที่ชำระเงิน 55% และคาดว่าในปีนี้จำนวนผู้ป่วยต่างชาติจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20% จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นคน จากผู้ป่วยทั้งหมด 2 แสนคน ซึ่งถือว่าฐานผู้ป่วยต่างชาติยังไม่มาก จึงยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้อีก โดยผู้ป่วยต่างชาติ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเข้ามาทำงานในประเทศไทย และล่าสุดมีนายหน้าเข้ามาติดต่อเพี่อพากลุ่มผู้ป่วย CLMV เข้ามาตรวจสุขภาพและรับการรักษา เนื่องจากโรงพยาบาล ลาดพร้าว ตรวจและรักษาในระดับราคาที่ยอมรับได้
ด้านผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดปี 2560 (เดือนม.ค.-สิ้นสุดเดือนธ.ค.2560) บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 194 ล้านบาท เติบโตขึ้น 24% จากปีที่ผ่านมา ที่มีกำไร 156 ล้านบาท มีรายได้รวม 1,524.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากงวดเดียวกันของปี 2559 ที่มีรายได้รวม 1,362.93 ล้านบาท โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการเติบโตของผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลและการใช้จ่ายเพื่อสุขภาพที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันที่มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษามาก ประกอบกับศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ทั้ง 5 ศูนย์ เริ่มสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ผลประกอบการในรอบปีที่ผ่านมา เป็นไปตามเป้าหมายทั้งรายได้และกำไร โดยรายได้โต 11% กำไรโต 24% เนื่องจากบริษัทและบริษัทย่อยมีการบริการจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเพียง 10% จากปีที่ผ่านมา และบริษัทมีค่าใช้จ่ายลงทุนเพิ่มจากการเตรียมเปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง (อาคารใหม่) และมีกำไรจากการจำหน่ายที่ดินซอยลาดพร้าว 126 บางส่วน”ดร.อังกูร กล่าว
ดร.อังกูร กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสด งวดผลการดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2560 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2560 หุ้นละ 0.20 บาท เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 150 ล้านบาท โดยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2560 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท ดังนั้นเงินปันผลที่จะจ่ายในงวดครึ่งปีหลังหุ้นละ 0.10 บาท โดยกำหนดวันจ่ายเงินปันผลวันที่ 18 พ.ค. 2561 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 30 เม.ย. 2561