WHAกำไรโตขายทรัพย์เข้ากองปี 63 แผน 5 ปี ทุ่มลงทุน 5.2 หมื่นลบ.

HoonSmart.com>>ดับบลิวเอชเอฯ ลุยลงทุนต่อเนื่อง ปี 63 พัฒนานิคมอุตสาหกรรมเพิ่มอีก 4 แห่ง ซื้อโครงการน้ำประปาที่เวียดนาม สร้างโครงการใหม่กับพื้นที่ให้เช่ารวม 2.5 แสนตารางเมตร ตั้งเป้าขายที่ดิน 1,400 ไร่ ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพิ่ม 15 เมกะวัตต์ รายได้และส่วนแบ่งเโต 15%  ออกหุ้นกู้ 7.5 พันล้านบาทในเดือน มี.ค. นี้

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA ) เปิดเผยว่า กลยุทธ์ในปี 2563 มุ่งสู่ความเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจหลักๆ ของบริษัท กำหนดทิศทางกลยุทธ์ไว้ 5 ข้อ ได้แก่ การขยายธุรกิจในต่างประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น, สร้างพอร์ตให้เติบโตด้วยโซลูชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับลูกค้า, ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย, ผสานกำลังธุรกิจทุกภาคส่วนของกรุ๊ป ให้มากขึ้น และเดินหน้าทรานส์ฟอร์มสู่องค์กรดิจิทัล

ในส่วนบริษัทดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ หาโอกาสในการจับมือกับพันธมิตรในระยะยาว โดยเฉพาะอีคอมเมิร์ซ  เน้นสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดมูลค่าสูงในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ การแปรรูปอาหาร การบิน โลจิสติกส์ และโรโบติกส์ นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ เพื่อสร้างคุณลักษณะใหม่ให้กับคลังสินค้าอัจฉริยะ  ในปี 2563 ตั้งเป้ายอดเช่าอาคารไว้ที่ 250,000 ตารางเมตร  ทำให้ยอดถือครองและบริหารรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2.56 ล้านตารางเมตร นอกจากพื้นที่คลังสินค้าที่มีอยู่ในประเทศไทยและ อินโดนีเซียแล้ว ยังมองหาโอกาสในเวียดนามด้วย

ทั้งนี้ในปี 2563 บริษัทมีแผนขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ราว 150,000 ตารางเมตร ซึ่งทั้ง 4 กองทุนของกลุ่มฯมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 45%ต่อปี และมีมูลค่าสูงถึง 5.54 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2562 โดยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยมโกรท (WHART) และ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นราว 77% และ 30% ตามลำดับ

สำหรับบริษัทดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ (WHAID) มีแผนการสร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 11  ในช่วงปลายปี ทำให้มีนิคมทั้งหมดเป็น 12 แห่ง และขยายนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 4 และรวมถึงพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่อีก 3 แห่งภายในปี 2566 ทั้งนี้ยังตั้งเป้าขายที่ดิน 1,400 ไร่ด้วย

ทางด้านดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) จะมีการขยายธุรกิจ พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการน้ำรูปแบบใหม่ และเสริมพอร์ตพลังงานด้วยนวัตกรรมโซลูชั่นพลังงาน มีการคุยกับประชาชนบริเวณนิคมอุตสาหกรรม ที่จังหวัดระยองถึงหาแหล่งน้ำเพื่อการนำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงการศึกษาการทำน้ำประปาสะอาดจากน้ำทะเลอีกด้วย บริษัทฯมีแผนซื้อโครงการน้ำประปา ในประเทศเวียดนาม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 2/2563

นางสาวจรีพร กล่าวว่า  ในปี 2563 ธุรกิจไฟฟ้าตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งตามสัดส่วนของการถือหุ้น 591 เมกะวัตต์ จากเดิมมี 560 เมกะวัตต์ และระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2563  เจรจาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพิ่ม 15 เมกะวัตต์ เป็น 50 เมกะวัตต์  เริ่มในไตรมาส 1 ติดตั้งก่อน 5 เมกะวัตต์  ส่วนโครงการ Chonburi clean energy (CCE) จะเริ่มรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้ด้วย

ในส่วนของบริษัทดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล แพลตฟอร์ม ตั้งเป้าสนับสนุนการดำเนินงานทุกรูปแบบในกลุ่ม ช่วงปลายปีนี้ จะมีการติดตั้งไฟเบอร์ออฟติก (FTTx) ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนในนิคมอุตสาหกรรม 9 แห่งจากทั้งหมด 10 แห่งในประเทศไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพการเชื่อมต่อด้านดิจิทัลภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ อาศัยฐานลูกค้าขนาดใหญ่ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล แพลตฟอร์ม จะส่งผลดีกับธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ด้วย

ด้านความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานของอีอีซี เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบินและการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ผลดีต่อกลุ่ม เนื่องจากมีที่ดินขนาดใหญ่ที่พร้อมให้บริการ  ที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนในจังหวัดที่เป็นยุทธศาสตร์ของประเทศไทย เป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของเขตนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท

“แผนกลยุทธ์ต่างๆ ที่บริษัทฯกำลังดำเนินการ รวมถึงโครงการใหม่ๆ  ทำให้เรามั่นใจว่าผลประกอบการในปีนี้จะยังเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง  คาดว่ารายได้และส่วนแบ่งกำไรในปี 2563 จะเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน ตั้งเป้าอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) อยู่ที่ 40%   และใช้งบลงทุนในช่วง 5 ปี (2563 – 2567) ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท โดยอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน(IBD/E Ratio)ไม่เกิน 1 เท่า บริษัทเตรียมออกหุ้นจำนวน  7,500 ล้านบาท ในเดือนมีนาคมนี้”นางสาวจรีพร กล่าว