HoonSmart.com>>ธนาคารทหารไทยรวมธนาคารธนชาตเป็นหนึ่งเดียว เปิดตัวทีมผู้บริหารระดับสูง นำโดย “ปิติ ตัณฑเกษม” เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ” เป็นผู้จัดการใหญ่ ผนึกกำลังมุ่งตอบโจทย์สร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ สู่ความฝันที่ลูกค้าชื่นชอบและบอกต่อมากที่สุด หลังได้รับบริการที่ตรงใจและตรงเวลา ระหว่างการควบรวมกิจการ ดูแลการทำธุรกรรมให้ราบรื่น ก.พ.นี้เริ่มเปิดสาขาที่มีบริการของทั้งสองธนาคารมาอยู่ในที่เดียวกัน
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ในปี 2563 ธนาคารทหารไทยและธนาคารธนชาตจะรวมทีมงานให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ภายใต้ ONE DREAM,ONE TEAM,ONE GOAL ซึ่งจะร่วมกันตอบโจทย์ในการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ และทำให้ฝันเป็นจริงคือ อยากเป็นธนาคารเบอร์ 1ในดวงใจลูกค้าที่ชื่นชอบและบอกต่อมากที่สุด
“การรวมกันครั้งนี้ไม่ใช่เท่ากับสอง แต่ผลลัพธ์เท่ากับสาม ทีมผู้บริหารของธนาคารใหม่มีทั้งคนไทยและต่างประเทศมีความเข้าใจลูกค้าคนไทย มีความเชี่ยวชาญ และระบบที่ดี เราจะมองลูกค้าไม่เหมือนเดิม เพราะความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เทคโนโลยีจะทำให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้น เราต้องออกแบบบริการที่ตอบโจทย์ตลอดช่วงชีวิต จึงจำเป็นต้องพัฒนาคน และนำระบบมาใช้ เพื่อให้บริการที่ดีขึ้น ทำให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น มีส่วนช่วยสร้างสังคมให้เข้มแข็ง ” นายปิติกล่าว
ส่วนการดำเนินงาน นายปิติกล่าวว่า ธนาคารใหม่เน้นปรับโครงสร้างสินเชื่อให้เหมาะสมกับความเสี่ยง อาจจะทำให้สินเชื่อในปีนี้โตติดลบหรือทรงตัวจากปีก่อน ซึ่งมีฐานที่สูงเติบโตถึง 104 % คิดเป็นสินเชื่อรวมประมาณ 1.39 ล้านล้านบาทหลังรวมกับธนชาต แต่ทำให้ NIM เติบโตขึ้นเป็น 3% จาก 2.8% เพราะลดสินเชื่อภาคธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนต่ำ เพิ่มสินเชื่อเช่าซื้อ ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยคาดจะเติบโต 0.9%-1.10% จากค่าธรรมเนียมขายกองทุนและขายประกัน ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPLs) คาดอยู่ที่ 2.8% จากสิ้นปีก่อน 2.3% ทั้งนี้ NPLs และสำรองที่เพิ่มขึ้น เกิดจากการปรับโครงสร้างสินเชื่อ และรองรับมาตรฐานบัญชีใหม่
นาย ประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า การรวมธนาคารเป็นหนึ่งเดียวจะเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2564 ระหว่างดำเนินการจะดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบใดๆ โดยธนาคารมีแผนที่จะเริ่มทยอยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดเด่นของธนาคารทั้งสองแห่งให้ลูกค้าของอีกธนาคารได้รู้จักและทดลองใช้ นอกจากนี้ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะเริ่มให้บริการสาขาร่วมระหว่างสองธนาคาร (Co-Location /Co-Brand) คือในสาขาเดียวกันจะมีบริการทั้งสองธนาคารแต่แยกพื้นที่เป็นสัดส่วน ไม่จำเป็นต้องมีสองสาขาในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกัน ในปีนี้วางแผนจะเปิดทั้งหมด 90 สาขาครอบคลุมจังหวัดหลักๆทั่วประเทศ
นอกจากนี้ในเดือนมีนาคมนี้ ลูกค้าทั้งสองธนาคารจะได้รับความสะดวกจากการให้บริการ ATM/ADM จำนวนกว่า 4,700 เครื่อง ฟรีค่าธรรมเนียมฝาก ถอน โอน ลูกค้าทีเอ็มบี ทัช สามารถกดเงินไม่ใช้บัตรจากเครื่องของธนชาตได้ ส่วนบิลสินเชื่อของธนชาต ก็สามารถชำระได้ที่เครื่องของธนาคารทหารไทย
ส่วนพนักงานก็ได้รับการปฎิบัติอย่างเท่าเทียมกัน มีการเพิ่มสวัสดิการและการพัฒนาทักษะ สร้างความเข้มแข็งทางการเงินในระยะยาว และเพิ่มขีดความสามารถที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากดิจิทัลเทคโนโลยี
” ธนาคารใหม่มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านราย มีลูกค้าซ้ำกันนิดเดียว ส่วนสาขาที่ธนาคารทหารไทยมีอยู่ 400 สาขา และของธนชาต 500 สาขา รวมกันเป็น 900 สาขา ก็ต้องนำรวมกันในส่วนที่รวมกันได้ โดยไม่ได้เลิกจ้างพนักงาน”นายประพันธ์กล่าว
นายป้อมเพชร รสานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสินเชื่อรถยนต์ TMB กล่าวว่า มีการนำ Scoring Model มาใช้ นำข้อมูลมาวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้และการปล่อยกู้เพื่ออนุมัติสินเชื่อที่เหมาะสม ช่วยบริหารความเสี่ยงให้ลูกค้า และควบคุม NPLs สำหรับลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินที่ดีจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
ส่วนพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารในปีนี้จะทรงตัว คาดมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างประมาณ 4 แสนล้านบาทและมีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อใหม่ 1.9 แสนล้านยาท และพยายามรักษา NPLs ให้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1.2%