FETCO เปิด 9 แผนงานหลักปี 63 ขยายฐานนักลงทุน-จัดโครงการตลาดทุนพบรัฐ

HoonSmart.com>> “สภาธุรกิจตลาดทุนไทย” เปิด 9 แผนงานหลักปี 63 ผลักดันแผนการขยายฐานนักลงทุนในตลาดทุน จัดทำโครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ร่วมทำหน้าที่ Investor Relations เสริมสร้างความเชื่อมั่นการลงทุนของประเทศ สนับสนุนด้านบุคลากรรองรับภาคตลาดทุน พร้อมผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีผลบังคับใช้

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินงานของ FETCO ในปี 2563 ภายใต้พันธกิจการเป็นตัวแทนภาคเอกชนเพื่อร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาตลาดทุนไทยรวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนนโยบายระหว่างรัฐและเอกชน จะดำเนินการโดยมีแผนงาน 9 แผนงานหลักประกอบด้วย 1) ผลักดันการขยายฐานนักลงทุนในตลาดทุน 2) โครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ร่วมกับกระทรวงการคลังทำหน้าที่ Investor Relations แก่นักลงทุนเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนของประเทศ 3) สนับสนุน SMEs และ Startups ให้เข้าถึงตลาดทุน

4) สนับสนุนการจัดทำโครงการสร้างและพัฒนาบุคลากรรองรับภาคตลาดทุน 5) สนับสนุน Capital Market Digital Roadmap 6) ผลักดันความร่วมมือภาคตลาดทุนเพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ (ESG Collective Supporting) 7) สนับสนุนการพัฒนาทักษะทางการเงิน (Financial Literacy) 8) เสนอความคิดเห็นและให้คำปรึกษาต่อภาครัฐเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทย และ 9) ติดตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทยและแผนงานภาคตลาดทุน

นายไพบูลย์ กล่าวว่า นโยบายการดำเนินงานของ FETCO ดังกล่าว มาจากความเห็นร่วมกันว่าตลาดทุนสามารถเพิ่มศักยภาพให้ภาคเศรษฐกิจโดยเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ภาครัฐให้ความสำคัญในการขอความเห็นในการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนไทยและเศรษฐกิจระดับชาติ ร่วมกับภาคธุรกิจพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวม และการจัดทำโครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ทำหน้าที่สนับสนุนในฐานะ Investor Relations ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศ เพื่อการเข้าถึงนักวิเคราะห์ นักลงทุนสถาบันในประเทศ และนักลงทุนต่างประเทศระยะยาว การผลักดันแผนงานด้านตลาดทุนดิจิทัลร่วมกัน

รวมถึงการผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีผลบังคับใช้ เช่น พรบ.ทรัสต์ เพื่อการจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคลและลดการนำทรัพย์สินออกไปบริหารนอกประเทศ พรบ.มหาชน เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินการธุรกิจ พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ เพื่อจัดให้มีการออมภาคบังคับสำหรับแรงงานในระบบ การปรับปรุงกฎหมายที่ไม่สามารถลงทุนในตลาดทุนได้ เช่น สมาคม มูลนิธิ เป็นต้น ให้สามารถลงทุนได้หลากหลายมากขึ้น

พร้อมทั้งสนับสนุนการลงทุนในกองทุนเพื่อการออมระยะยาว (SSF) เพื่อให้นักลงทุนได้เข้าใจและเห็นความสำคัญของการลงทุนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง การจัดทำแผนงานสนับสนุน SMEs และ Startups ให้เข้าถึงตลาดทุน การผลักดันความร่วมมือภาคตลาดทุนเพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ การสนับสนุนการ บูรณาการของภาครัฐในการทบทวนแผนงาน ทิศทางและกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาทักษะด้านการเงินและการลงทุน การร่วมเป็นองค์กรสนับสนุนในฐานะหน่วยงานที่มีสิทธิรับรองการเสนอโครงการของกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) และการพิจารณาหาแนวทางสนับสนุนโครงการสร้างและพัฒนาบุคลากรรองรับภาคตลาดทุน

“ภาวะการณ์เปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย และทิศทางการดำเนินการธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนทางธุรกิจมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนระยะยาว ดังนั้นภาคตลาดทุนจำเป็นต้องพิจารณาเตรียมพร้อมและเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้ โดยการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยให้เติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน มีเสถียรภาพ และมีประสิทธิภาพ การผลักดันและสนับสนุนส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรและผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจตลาดทุนไทย สร้างมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีระบบการบริหารจัดการที่โปร่งใส ยุติธรรม รวมทั้งมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม”นายไพบูลย์ กล่าว