HoonSmart.com>> “ดุสิต ฟู้ดส์” ในกลุ่มดุสิตธานี ซื้อ “เดอะ เคเทอเรอร์ส” 51% เป็นเงิน 61.2 ล้านบาท ก้าวสู่ผู้ให้บริการอาหารชั้นนำในสถาบันการศึกษาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนมาสเตอร์ แอด ถือหุ้น 25% ใน VGI Vietnam Joint Stock Company ผู้ให้บริการสื่อโฆษณานอกบ้านดิจิทัลที่มีเครือข่ายกระจายอยู่ทั่วประเทศเวียดนาม หลังประสบความสำเร็จในมาเลเซียและอินโดนีเซีย
นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี (DTC) เปิดเผยว่า การเข้าซื้อกิจการในบริษัท เดอะ เคเทอเรอร์ส จอยท์ สต็อก จำกัด (The Caterers Joint Stock) หรือ “เดอะ เคเทอเรอร์ส” (The Caterers) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการจัดเลี้ยงสำหรับโรงเรียน รวมถึงงานเลี้ยงรับรองนอกสถานที่ในประเทศเวียดนาม โดยในเบื้องต้นจะลงทุนในสัดส่วน 51% คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 61.2 ล้านบาทหรือ 2.04 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับเดอะ เคเทอเรอร์ส ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2549 ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 700 คน และเป็นผู้ให้บริการอาหารที่สดใหม่มากกว่า 15,000 รายการต่อวันไปยังโรงเรียนนานาชาติและโรงเรียน Bilingual หรือโรงเรียนสองภาษาชั้นนำกว่า 36 แห่งในประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ ยังให้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่อีกมากกว่า 640 รายการต่อปี ปัจจุบันมีโรงเรียนนานาชาติประมาณ 120 แห่งที่เปิดในเวียดนาม คาดว่าในจำนวนนี้ประมาณ 20% ยังมีความต้องการผู้ให้บริการจัดหาอาหารจากภายนอกเข้ามาให้บริการ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าตลาดรวมอย่างน้อยปีละ 2 พันล้านบาท
“การขยายตัวของโรงเรียนนานาชาติและโรงเรียนสองภาษาในเวียดนามนั้นน่าสนใจมาก เนื่องจากประชากรชาวเวียดนามกำลังเติบโตและต้องการส่งบุตรหลานศึกษาภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น ประกอบกับการขยายตัวของชุมชนต่างชาติที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการลงทุนในเวียดนาม ซึ่งมาจากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้จำนวนโรงเรียนนานาชาติในเวียดนามมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายเจตน์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ กล่าวด้วยว่า การเข้าซื้อกิจการของเดอะเคเทอเรอร์ส ประเทศเวียดนาม อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย นอกจากจะเสริมสร้างสถานะของบริษัท เอ็บเพอคิวร์ฯ ในฐานะผู้ให้บริการอาหารที่มีคุณภาพสำหรับสถาบันการศึกษาชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ยังเป็นการเติมเต็มพอร์ตการลงทุนในธุรกิจอาหารของกลุ่มดุสิตธานีให้มีความแข็งแกร่ง และยังสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจอาหารของดุสิตธานีในอนาคตได้อีกด้วย
“การเข้าซื้อกิจการเดอะ เคเทอเรอร์ส สอดคล้องกับภารกิจของดุสิต ฟู้ดส์ ในการลงทุนในธุรกิจที่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีศักยภาพ มีความสามารถในการสร้างกำไร และมีโอกาสขยายตัวสูง พร้อมๆ กับตอบสนองแนวคิดหลักของดุสิต ฟู้ดส์ ที่เราต้องการส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีกับสุขภาพไปสู่ชุมชน ซึ่งถือเป็นพันธกิจที่สำคัญของบริษัทฯ ผู้เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดของเรา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ กล่าว
ด้านนายเทรเวอร์ อัลเลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการ เดอะ เคเทอเรอร์ส นั้นจะสร้างโอกาสในการเติบโตและพัฒนาบริการของบริษัทฯ ในประเทศเวียดนาม ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการจัดเลี้ยงสำหรับโรงเรียนนานาชาติชั้นนำในประเทศไทย เวียดนาม และกัมพูชา ทำให้บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะผลักดันการขยายตัวของเดอะ เคเทอเรอร์ส และพร้อมที่จะสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ รวมทั้งพร้อมที่จะสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
ด้านนายพุน ฉง กิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด (MACO) ผู้นำเครือข่ายสื่อโฆษณานอกบ้าน เปิดเผยว่า บริษัทใช้เงินลงทุนในการเพิ่มทุน VGI Vietnam Joint Stock Company มูลค่า 3.5 แสนล้านดองเวียดนาม หรือประมาณ 457.2 ล้านบาท คาดว่าการทำธุรกรรมแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2563 โดย MACO จะนำความรู้ความสามารถเข้าไปช่วยเสริมศักยภาพให้ VGI Vietnam แข็งแกร่งมากขึ้น และเงินลงทุนส่วนใหญ่ยังเป็นการเข้าไปเพิ่มทุนเพื่อให้ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด
สำหรับประเทศเวียดนามนับเป็นประเทศที่น่าจับตามองของบรรดานักลงทุนจากทั่วโลกด้วยจำนวนประชากรที่เข้าใกล้ 100 ล้านคน โดยในปี 2562 เศรษฐกิจเติบโตถึง 7 % พฤติกรรมของผู้บริโภคจึงมีกำลังซื้อก้าวกระโดดมากขึ้น เม็ดเงินใช้จ่ายการโฆษณาอยู่ที่ประมาณ 1.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสื่อประเภททีวีเป็นอันดับหนึ่ง รองมาเป็นสื่อประเภทหนังสือพิมพ์และสื่อเอาท์ดอร์และทรานซิสครองอันดับสาม
ส่วนมูลค่าทางการค้าของเวียดนามสูงถึง 5.1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการเติบโตที่รวดเร็วนั้นมาพร้อมกับนโยบายรัฐที่เน้นให้ทุกจังหวัดของเวียดนามทำแผนพัฒนาตัวเอง และเวียดนามได้ลงนามข้อตกลงเสรีการค้ากับสหภาพยุโรป มีการปรับลดอัตราภาษีสินค้าเกือบทุกประเภท ช่วยเอื้อประโยชน์ต่อการค้าและการลงทุนมากขึ้น
“การเข้าลงทุนครั้งนี้เป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ MACO ที่มุ่งขยายธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านไปยังตลาดในภูมิภาคอาเซียน ที่ผ่านมาประเทศที่เราเข้าไปดำเนินการธุรกิจสำเร็จแล้ว ได้แก่ ประเทศมาเลเซียและประเทศอินโดนีเซีย “นายพุน ฉง กิตกล่าว
อ่านประกอบ