HoonSmart.com>> “ทาทา สตีล” ไตรมาส 3 ปีงบการเงิน 63 ขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 63 ล้านบาท จากงวดปีก่อนขาดทุน 178 ล้านบาท ฉุด 9 เดือนขาดทุนเหลือ 52 ล้านบาท
บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) หรือ TSTH แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปีงบการเงิน 2563 (ต.ค.-ธ.ค.2562) ขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 63.24 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.01 บาท จากงวดปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 178.59 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.02 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 51.77 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.01 บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 71.62 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.01 บาท
บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า ผลประกอบการ TSTH ขาดทุนถูกฉุดจากภาวะอุตสาหกรรมเหล็กในตลาดโลกและไทยที่ซบเซา ราคาเหล็กทั้งต่างประเทศและในประเทศทรุดลง จากปัญหาสงครามการค้า เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว การนำเข้าเหล็กลวดจากต่างประเทศมากขึ้น โดยราคาขายเฉลี่ยในประเทศของ TSTH ไตรมาสนี้ปรับลดลงเหลือ 15,684 บาท/ตัน (-9%QoQ, -20%YoY) ทำให้ยอดขายปรับลดลงเหลือ 4,486 ล้านบาท (-12%QoQ, -18%YoY) อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงเหลือ 2.2% เทียบกับไตรมาสก่อน 3.2% และ ปีก่อน 0.9% แม้ว่าไตรมาสนี้จะควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดี 164 ล้านบาท (-4%QoQ, -29%YoY)
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 62/63 (ม.ค.-มี.ค. 2563) ของ TSTH คาดจะฟื้นตัว จากราคาเหล็กในปัจจุบันเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นเล็กน้อย และ เข้าสู่ฤดูไฮซีซั่น แต่ฐานกำไรจะยังต่ำ เนื่องจากยังประสบปัญหาจากอุปทานที่เกิดจากผู้ผลิตจากเตาหลอมเหนี่ยวนำไฟฟ้า (Induction furnace) เพิ่มขึ้น ปัญหาสงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว เช่นเดียวกับเศรษฐกิจในประเทศ ปัญหาการนำเข้าเหล็กลวดจากต่างประเทศ จึงปรับประมาณการลดลงอีก ประเมินผลประกอบการปี 2562/63 จะขาดทุนเท่ากับ 42 ล้านบาท
“ราคาหุ้น TSTH ปัจจุบันซื้อขายซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น 1.06 บาท เราประเมินราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าอิงกับ ค่าเฉลี่ย 10 ปี Forward P/BV เท่ากับ 0.78 เท่า ได้เท่ากับ 0.85 บาท แม้ว่าราคาหุ้นจะซื้อขายต่ำกว่าราคาเป้าหมาย เราคงแนะนำ ถือ โดยช่วงนี้ให้ชะลอการลงทุนหุ้นกลุ่มเหล็กไว้ก่อน”บล.เมย์แบงก์ฯ ระบุ