KUMWEL โชว์ “Smart Lightning Management System” วางแผน 5 ปีโตปีละ 15-20%

HoonSmart.com>> คัมเวล คอร์ปอเรชั่น เพิ่มโอกาสรับงาน ทดสอบสินค้าใหม่ “Kumwell Distributed Acoustics (K-DAS)” เทคโนโลยีขั้นสูงค้นหาภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ ตอบโจทย์ลูกค้าภาคความมั่นคงระดับประเทศ จ่อรับรู้รายได้งานวางระบบโครงการรถไฟความเร็วสูง (กรุงเทพฯ-โคราช) เฟส 2 หนุนยอดขาย

นายบุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ

นายบุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น KUMWEL) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจปี 63 จะเป็นปีแห่งการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตที่ 15-20% ต่อปีภายใน 5 ปี จากปี 62 โตใกล้เคียงกับปี 61 ที่มีรายได้ 469.72 ล้านบาทจากการทยอยลงทุนของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งทุกโครงการเป็นงานโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์และระบบเตือนภัยฟ้าผ่า

ล่าสุด บริษัทอยู่ระหว่างวิจัยและทดสอบสินค้าใหม่ Kumwell Distributed Acoustics (K-DAS) เทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งใช้วิธีการตรวจวัดเสียงแบบกระจายผ่านใยแก้วนำแสง เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวและกิจกรรมทั้งหมดภายในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและสินทรัพย์ต่างๆ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะภาคความมั่นคงของประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทได้นำเสนอโครงการต้นแบบ ในระบบ “Smart Lightning Management System” นวัตกรรมระบบป้องกันฟ้าผ่าแบบอัจฉริยะ ที่ KUMWEL เป็นผู้พัฒนารายแรกและรายเดียวของโลก ให้แก่กลุ่มลูกค้าอาทิ การไฟฟ้าและพลังงาน คมนาคม การสื่อสารโทรคมนาคม และความมั่นคงทางทหาร ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี  มีหลายหน่วยงานมีการตอบรับและตั้งงบประมาณแล้ว และมีหน่วยงานบางหน่วยเตรียมทำ MOU มั่นใจในปีหน้ามีการรับรู้รายได้แน่นอน

ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมรับรู้รายได้จากการส่งมอบสินค้าให้กับงานวางระบบโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง (กรุงเทพฯ- นครราชสีมา) เฟส 2 โดยก่อนหน้านี้บริษัทรับรู้รายได้ในเฟสแรก 3.5 ล้านบาท (ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร) จากทั้งหมด 14 เฟส ระยะทางรวม 249 กิโลเมตร คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/62 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 63

ในส่วนของการวางแผนการเติบโต บริษัทได้วางแผนสร้างโรงงานเพิ่มเติมจากเงินลงทุนที่ได้จากการขายหุ้นไอพีโอ ซึ่งคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2564 คาดว่าใช้งบประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อเตรียมรองรับการผลิต และนำไปพัฒนานวัตกรรมที่ทางบริษัทคิดค้นขึ้นมา นอกจากนี้แล้วยังมีนักลงทุนจากประเทศดูไบก็มีความสนใจที่จะส่งพนักงานมาอบรม  ในส่วนของประเทศจีนจะมีการปรับปรุงเรื่องการตลาดและตัวแทนจำหน่ายใหม่ ส่วนในเวียดนามมีการทำธุรกิจกับการไฟฟ้ากันมานานกว่า 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งในอาเซียนก็จะมีการนำเสนอ ระบบ inovation ควบคู่เพิ่มเติมไปอีกด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาส สร้างความแข็งแกร่ง และเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้ามากขึ้น ในส่วนการเติบโตจะเป็นทิศทางที่ใกล้เคียงกันกับระบบเดิม

ทั้งนี้ บริษัทวางแผนขยายตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ต่างจังหวัดเพิ่ม อาทิ ขอนแก่น ภูเก็ต กระบี่ ตรัง เชียงใหม่ สุราษฏร์ธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา อุดรธานี และสงขลา คาดว่าจะสามารถทยอยเพิ่มจำนวนตัวแทนได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/62 เป็นต้นไป

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัท แบ่งเป็น ต่างประเทศ 19.5% และในประเทศ 74.7% ประกอบด้วย ลูกค้า 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ ภาคการไฟฟ้าและพลังงาน 26.2% ภาคสิ่งปลูกสร้าง 29.4% ภาคอุตสาหกรรม 14.4% ภาคคมนาคม 3.5% ภาคการสื่อสารโทรคมนาคม 1.0% และภาคความมั่นคงทางทหาร 0.1%

สำหรับการดำเนินงานช่วงไตรมาส 4/62 บริษัทได้รับผลกระทบจากความล่าช้าของงบประมาณภาครัฐในปีนี้ ทำให้เกิดการชะลอคำสั่งซื้อออกไป