HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 55 จุด นักลงทุนยังขานรับแนวโน้มข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐและจีนในทางบวก ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบเพิ่ม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ที่ 28,121.68 จุด บวก 55.21 หรือ 0.20% จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกก่อนวัน Black Friday ที่ส่งผลให้ดัชนีหลักแตะระดับสูงสุดใหม่อีกครั้ง
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,140.52 จุด เพิ่มขึ้น 6.88 จุด,+0.22%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,647.93 จุด เพิ่มขึ้น 15.40 จุด,+0.18%
Black Friday เป็นวันที่ใช้เรียกแทนวันศุกร์ที่ต่อจาก วันขอบคุณพระเจ้า หรือ Thanksgiving ของสหรัฐฯเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูกาลช้อปปิ้งของอเมริกา ซึ่งสมาพันธ์ค้าปลีกคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 4%
นักลงทุนยังขานรับแนวโน้มการบรรลุข้อตกลงการค้าระยะแรกระหว่างสหรัฐฯกับจีน จากการส่งสัญญานของทั้งสองฝ่าย โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า สหรัฐฯอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลงการค้ากับจีน แต่ย้ำว่าสหรัฐฯอยู่เคียงข้างผู้ประท้วงเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกง
ขณะเดียวกันรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ตัวแทนคณะเจรจาของจีนและสหรัฐฯได้ตกลงร่วมกันที่จะเจรจาต่อเนื่องในข้อตกลงการค้าระยะแรก โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนตัวแทนเจรจาฝ่ายจีนได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯและนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งสำนักข่าวซินหัวรายงานว่าเป็นการพูดคุยที่เน้นการแก้ไขประเด็นที่แต่ละฝ่ายกังวล
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากกล่าวสุนทรพจน์ช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายนของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางที่แสดงความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยการลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งที่ผ่านมาได้กระตุ้นให้มีการซื้อบ้าน ส่งให้ช่วงการขยายตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่องเป็นเวลานานเป็นประวัติการณ์ แต่ส่งสัญญานว่าอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำทำให้มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ย
นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสาขาดัลลัสให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีว่า คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสสี่จะอ่อนตัว เป็นผลจากสงครามการค้า
The U.S. Census Bureau ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าเดือนตุลาคมสหรัฐฯขาดดุลการค้าลดลง 6% จาก 70.5 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนมาอยู่ที่ 66.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน และต่ำกว่า 70.3 พันล้านดอลลาร์ที่นักวิเคราะห์คาด แต่ก็คาดกันว่าการขาดดุลการค้าทั้งปี 2019 ของสหรัฐฯจะสูงสุดในรอบ 11 ปี
การส่งออกเดือนตุลาคมลดลง 900 ล้านดอลลาร์มีมูลค่ารวม 135.3 พันล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าลดลง 5 พันล้านดอลลาร์มีมูลค่ารวม 201.8 พันล้านดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์เผยยอดขายบ้านใหม่เดือนตุลาคมลดลง 0.7% มาอยู่ที่ 733,000 ยูนิต
Conference Board เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนลดลงมาที่ระดับ 125.5 ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเดือนที่ 4
หุ้นเบสต์บาย ค้าปลีกสินค้าอเล็กทรอนิคส์รายใหญ่เพิ่มขึ้น 9.8% จากกำไรไตรมาส 3 ดีกว่านักวิเคราะห์คาดและได้ปรับประมาณการณ์ผลการดำเนินงานทั้งปีขึ้น หุ้นพร็อกเคอร์แอนด์แกมเบิลเพิ่มขึ้น 1.45% หุ้นเบอร์ลิงตัน สโตร์ ห้างค้าปลีกราคาประหยัด เพิ่มขึ้น 8.5% หลังยอดขายสาขา รายได้และกำไรไตรมาสสาม ดีกว่าคาด
หุ้นดิสนีย์เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น 1.3% หลังเปิดเผยว่ามีผู้ลงทะเบียนใช้บริการสตรีมมิ่ง Disney + จำนวน 1 ล้านราย
หุ้นฮิวเล็ตต์แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ลดลง 8.48% จากรายได้ไตรมาสสี่ต่ำกว่ากว่าคาด หุ้นซีร็อกซ์ โฮลดิ้งลดลง 1.19% หลังประกาศยอมรับข้อเสนอเทคโอเวอร์มูลค่า 33 พันล้านดอลลาร์จาก เอชพี อิ้งค์
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก นำโดยกลุ่มก่อสร้างและวัสดุ นักลงทุนเกาะติดการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังจากทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันที่จะเดินหน้าเจรจาต่อเนื่องในข้อตกลงการค้าระยะแรก และจะหารือกันในประเด็นที่แต่ละฝ่ายกังวล
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,403.14 จุด เพิ่มขึ้น 6.85 จุด,+0.09%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 408.49 จุด เพิ่มขึ้น 0.40 จุด, +0.10%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,929.62 จุด เพิ่มขึ้น 4.76 จุด,+0.08%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,236.42 จุด ลดลง 10.03 จุด,-0.08%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 40 เซนต์ปิดที่ 58.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 62 เซนต์ปิดที่ 64.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

