สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก-อลูมิเนียมจากอียู แคนาดา เม็กซิโก มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันพฤหัสฯตามเวลาสหรัฐ
สหรัฐอเมริกาประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากสหภาพยุโรป(EU) แคนาดา และเม็กซิโก โดยจะมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาสหรัฐ
หลังจากที่ นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ได้นำคณะเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่ EU เพื่อแก้ไขข้อพิพาททางการค้าที่กรุงปารีสเมื่อวานนี้ แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ และการผ่อนผันการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม จาก EU แคนาดา เม็กซิโกที่มีขึ้นตั้งแต่ต้นปีจะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้
นายรอสส์ กล่าวว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก ในอัตรา 25% และภาษีนำเข้าอลูมิเนียม 10% จาก EU แคนาดา เม็กซิโก แต่ก็ยังเปิดโอกาสในการเจรจาการค้าต่อไป แม้จะยังไม่ระบุว่าจะใช้มาตรการใดบ้าง
“เราจะยังคงดำเนินการเจรจาทั้งแคนาดาและเม็กซิโกทางหนึ่ง ขณะที่อีกทางหนึ่งก็จะเจรจากับ EU เพราะมีอีกหลายประเด็นที่เราต้องการแก้ไข” นายรอสส์กล่าว
การเรียกเก็บภาษีมีเป้าหมายที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐสามารถเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นไปได้มากกว่า 80% เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
The Wall Street Journal ระบุว่า รายงานข่าวนี้ส่งผลให้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศศ นายกรัฐมนตรี แองเจลา แมร์เคิล เยอรมนี และนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ อังกฤษ ออกแถลงการณ์ร่วมว่า สหภาพยุโรปพร้อมที่จะป้องกันผลประโยชน์ของกลุ่ม โดยยึดกรอบข้อตกลงพหุภาคีทางการค้า