โบรกฯชี้ตลาดตื่นข่าวลบย้าย 2 โรงไฟฟ้า BGRIM มากเกินไป กดดันราคาร่วงเหลือ 24 บาท “ปรียนาถ” ยันย้ายโรงไฟฟ้าไปทุกทำเลที่มีศักยภาพ แต่ขอเวลาเลือกที่ตั้งที่ที่ทำกำไรสูงสุด
เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2561 ราคาหุ้น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ปิดที่ 24 บาท ลบ 0.50 บาท หรือลดลง 2.04% โดยราคาหุ้นดังกล่าวเป็นราคาที่ตอบสนองต่อข่าวเชิงลบจากการย้ายโรงไฟฟ้า 2 แห่ง มากเกินไป เนื่องจากทั้งผู้บริหาร BGRIM กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยืนยันตรงกันว่าการย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง ทำได้ และขณะนี้ BGRIM กำลังพิจารณาร่วมกับกฟผ.ว่าจะย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าไปที่ใด
ส่วนกรณีการเปลี่ยนรูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโรงไฟฟ้าของ BGRIM จำนวน 3 แห่ง กำลังการผลิตรวม 420 MW ที่จะสิ้นสุดสัญญาขายไฟฟ้าให้กฟผ.ในปี 2562 และ2565 โดยเปลี่ยนรูปแบบสัญญาจากเดิมที่กำหนดรับซื้อไฟฟ้า 25 ปี เป็นรับซื้อไฟฟ้า 10 ปี จะมีผลกระทบต่อกำไรของ BGRIM ไม่มากนัก
บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี แนะนำ “ซื้อ” BGRIM ที่ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท เนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้า บี.กริม เพาเวอร์ (ราชบุรี) 1 (BGPR1) และบี.กริม เพาเวอร์ (ราชบุรี) 2 (BGPR2) มีโอกาสยกเลิกต่ำ หลังได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนที่ตั้งใหม่ ส่วนการเปลี่ยนสัญญาขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า BGRIM ทั้ง 3 แห่ง คือ ABP1, ABP2 และ BPLC1 จะมีผลกระทบต่อกำไรไม่มากนัก และ BGRIM จะได้กำไรจากโครงการโซลาร์ฟาร์มในเวียดนามมาชดเชยกำไรส่วนนี้
บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า บรรดานักวิเคราะห์ให้ราคาหุ้นเฉลี่ย (Median Consensus) ของ BGRIM ที่ 31.50 บาท ส่วนราคาหุ้นที่ 24 บาท เป็นราคาที่ตลาดตื่นตระหนกกับข่าวย้ายโรงไฟฟ้ามากเกินไป และเรามองว่าเป็นเพียงแค่ Noise เท่านั้น
ทั้งนี้ ผู้บริหาร BGRIM ยืนยันว่าได้พูดคุยกับกฟผ.มาตลอด และยืนยันการย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าไปยังนิคมฯเอเชียทำได้ แต่ต้องมีการลงทุนระบบสายส่งและ Substation เพิ่ม ซึ่ง BGRIM กำลังเจรจากับกฟผ.เพื่อขอร่วมลงทุนปรับปรุงระบบสายส่งดังกล่าว เพราะในอนาคตกฟผ.เองจำเป็นต้องลงทุนระบบสายส่งบริเวณดังกล่าวอยู่แล้ว เนื่องจากนิคมฯเอเซียตั้งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่จะมีการเติบโตในอนาคต
บล.เอเซียพลัส แนะนำ “ซื้อ” BGRIM ที่ 30.8 บาท โดยมองว่าข่าวการย้ายโรงไฟฟ้าถือเป็น sentiment เชิงลบต่อ BGRIM ทำให้ราคาหุ้นถูกกดดันในระยะสั้น แต่ในส่วนของปัจจัยพื้นฐานนั้น ยังต้องติดตามว่าที่ตั้งใหม่ของโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โรงจะอยู่ที่ใด โดยล่าสุดผู้บริหาร BGRIM ได้มีการพิจารณาพื้นที่หลายแห่งเพื่อตั้งโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โรงดังกล่าว เช่น พื้นที่บ่อวิน2 จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ของบริษัทเอง และนิคมฯไออาร์พีซี เป็นต้น
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGRIM เปิดเผยกับ “hoonsmart.com” โดยระบุว่า บริษัทกำลังดำเนินการเพื่อขอย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้า BGPR1 และ BGPR2 กำลังผลิต 240 MW ไปยังพื้นที่ก่อสร้างแห่งใหม่ และเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนเองได้สอบถามไปยังนายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการ กกพ. ซึ่งนายวีระพลยืนยันว่าการย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าทำได้แน่นอน แต่ต้องไปตกลงกับสถานที่ตั้งโรงไฟฟ้าใหม่กับกฟผ.ในฐานะคู่สัญญา
“เราได้ประสานงานกับกฝผ. อยู่ตลอดว่า จะย้ายโรงไฟฟ้าไปพื้นที่ที่มีระบบสายส่งรองรับ โดยกฟผ.อยากให้เราสร้างในภาคกลาง เพราะกำลังผลิตไฟฟ้าไม่พอ ซึ่งเราก็มองที่จ.อ่างทอง แต่ก็ยังไม่ทิ้งนิคมเอเชีย และเราได้ไปสำรวจศักยภาพระบบสายส่งเบื้องต้นแล้วพบว่ารองรับได้ แต่หากกฟผ.อยากให้เราไปสร้างโรงไฟฟ้าที่สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี หรือนครปฐม เราก็สร้างได้ เพียงแต่เรากำลังเลือกไซด์ที่ลงทุนแล้วมีกำไรสูงสุด”นางปรียนาถกล่าว
นางปรียนาถ กล่าวว่า BGRIM ยังมีเวลาในการตัดสินใจเลือกพื้นที่ลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า เพราะเมื่อคำนวณระยะเวลาในการทำอีไอเอและอีเอชไอเอ รวมกับระยะเวลาก่อสร้างโรงไฟฟ้า 24-26 เดือน มั่นใจว่าจะสร้างโรงไฟฟ้าและจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตามกำหนดปลายปี 2564 แน่นอน เพียงแต่ว่าโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า 2 โรง ใช้เงินลงทุนสูงถึง 1.24 หมื่นล้านบาท จึงจำเป็นต้องตัดสินใจให้รอบคอบ และต้องหารือกับกฟผ.เกี่ยวกับระบบสายส่งด้วย
“การย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าไม่ใช่ปัญหา ย้ายได้แน่นอน แต่เราขอเวลาอีกระยะหนึ่งในเลือกพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งเรากำลังหารือกับคู่สัญญา คือ กฟผ. และที่ผ่านมาเรามีการประสานข้อมูลระหว่างกันมาตลอด”นางปรียนาถกล่าว
นางปรียนาถ ยังแจ้งความคืบหน้าการย้าย 2 โรงไฟฟ้ามายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทขอยืนยันว่าการย้ายที่ตั้งในโครงการดังกล่าวสามารถทำได้และอยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โดยบริษัทอยู่ระหว่างการหารือในเชิงเทคนิคกับกฟผ.ถึงที่ตั้งหลายแห่งที่มีศักยภาพและมีความเหมาะสมที่สุดในเชิงการลงทุน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปโดยเร็ววันนี้ และจะจัดทำจดหมายหารือกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการกฟผ.และโฆษกกฟผ. กล่าวว่า กฟผ.ทำหนังสือให้ความเห็นไปยังกกพ. และแจ้งทาง BGRIM ว่า การย้ายโรงไฟฟ้า 2 แห่งจากที่ตั้งเดิมไปยังที่ตั้งใหม่สามารถทำได้ แต่กฟผ.อยากให้ BGRIM สร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ใกล้เคียงมากกว่า คือ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี หรือนครปฐม เพราะกฟผ.ลงทุนระบบสายส่งพร้อมแล้ว และหากจะย้ายไปที่อื่น เช่น ที่นิคมฯเอเชีย กฟผ.กังวลว่าการลงทุนระบบสายส่งจะสร้างเสร็จทีหลังโรงไฟฟ้า
“เราเกรงถ้าย้ายไปอยู่ที่นิคมฯเอเชีย จะมีปัญหาตรงที่แม้ว่าโรงไฟฟ้าจะสร้างเสร็จทันตามกำหนด แต่การลงทุนระบบสายส่งต้องใช้เวลานานกว่านั้น และหากเป็นไปได้กฟผ.อยากให้ BGRIM ลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ใกล้เคียงที่เราแนะนำไป เพราะระบบสายส่งพร้อมอยู่แล้ว”นายสหรัฐกล่าว