DOD เทรดวันแรก 20 มิ.ย.นี้ ผู้บริหารลั่น “หุ้นห่านทองคำ”

DOD เทรดตลาด MAI วันแรก 20 มิ.ย.นี้ เปิดนักลงทุนจองซื้อหุ้นสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิ.ย. ขณะที่ผู้บริหารเผยเป็นจังหวะเหมาะ หลังภาครัฐกวาดล้างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่มีอย. พร้อมมั่นใจยอดขายไตรมาส 2 โตทะลัก

น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เปิดเผยระหว่างโรดโชว์เพื่อเสนอขายหุ้น IPO 110 ล้านหุ้น ว่า DOD จะเปิดซื้อขายวันแรกในตลาด MAI วันที่ 20 มิ.ย. โดยเป็นจังหวะที่เหมาะสมและจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะบริษัทมีธุรกิจที่หลากหลาย และได้รับอานิสงค์จากการที่ภาครัฐบุกจับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางค์ที่ไม่มีอย. ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าจากโรงงานที่มีอย.และได้มาตรฐานมากขึ้น

“ตอนนี้แม่ค้าออนไลน์มืออาชีพ หรือแม้แต่ดาราที่จะรีวิวสินค้า จะสอบถามที่มาและแหล่งผลิตสินค้าเสริมอาหารและเครื่องสำอางค์ก่อน เพราะมันไม่คุ้มกับการเสียชื่อเสียง โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาลูกค้ามีออเดอร์สั่งผลิตสินค้าจากโรงงานเราเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงดาราที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายราย ได้ติดต่อมาที่เราเพื่อว่าจ้างให้ผลิตสินค้าให้ ซึ่งทำให้ยอดขายไตรมาส 2 ปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากไตรมาสแรกที่เรามียอดขาย 214 ล้านบาท”น.ส.ศุภมาสกล่าว

น.ส.ศุภมาส ระบุว่า DOD จะเป็นหุ้นห่านทองคำที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอกับนักลงทุน เพราะทำธุรกิจที่มีคู่แข่งน้อย โดยเฉพาะโรงงานสกัดสารธรรมชาติแห่งที่สองและห้องปฏิบัติการ ซึ่งจะลงทุนโดยใช้เงินจากการระดมทุนรอบนี้ 100 ล้านบาท ขณะที่บริษัทจะพัฒนาแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้สูงอายุและคนในวัยทำงาน 2 แบรนด์ ซึ่งจะใช้เงิน 200 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ผลิตภัณฑ์ที่รับจ้างผลิตและผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์บริษัทอยู่ที่ 70 ต่อ 30 ในปี 2653

แผนการใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO ของ DOD

นอกจากนี้ บริษัทยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะการเติบโตตามเทรนด์ของการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และธุรกิจความงาม อีกทั้งบริษัทมีแผนขยายธุรกิจต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา DOD ได้เจรจากับพันธมิตรธุรกิจในต่างประเทศ 3-4 ราย ขณะที่ปัจจุบันโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่เพิ่งย้ายไปตั้งบนพื้นที่ 17 ไร่ที่มหาชัย จ.สมุทรสาครเมื่อปลายปี 2559 ใช้กำลังการผลิตไปเพียง 60% ซึ่งสามารถรองรับการผลิตได้อีก 40% และสามารถเพิ่มกะกลางคืนได้อีก โดยที่ไม่ต้องมีการลงทุนเพิ่ม

“ตอนนี้บริษัทมียอดขายภายใต้แบรนด์ของตัวเองไม่ถึง 1% แต่เราตั้งเป้าเพิ่มเป็น 30% ในปี 2563 และแม้ว่าบริษัทจะยังมีรายได้หลักการรับจ้างผลิตและออกแบบสินค้าให้ลูกค้า แต่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะลูกค้าต้องจ่ายเงินให้เรา 30-50% เมื่อสั่งให้เราออกแบบและผลิตสินค้าให้ และเงินที่เหลือจะจ่ายทันทีเมื่อได้รับสินค้า ซึ่งการผลิตสินค้าแต่ละชนิดเราตั้งเป้ากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 50% และเงินปันจาก DOD ในอัตรา 50% ของกำไรสุทธิจะได้รับการยกเว้นภาษีบีโอไอถึงปี 2563”น.ส.ศุภมาสกล่าว

น.ส.ศุภมาส ย้ำว่า การระดมทุนของบริษัทครั้งนี้ ไม่ใช่การตีหัวเข้าบ้าน แต่เป็นการระดมทุนเพื่อนำเงินมาลงทุนต่อยอดธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความความงาม ซึ่งมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาทในปี 2560

นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ DOD กล่าวว่า แม้ว่ารายได้ 80% ของบริษัทจะพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่ 4-5 เจ้า แต่ลูกค้าเหล่านั้นเป็นเทรดเดอร์ที่รับออเดอร์มาจากลูกค้าที่เป็นแบรนด์เล็กๆมาต่อหนึ่ง ส่วนสินค้าที่ DOD ออกแบบและผลิต แบรนด์สินค้าและเลขที่อย.ของสินค้าที่ลูกค้าจ้างผลิต ถือเป็นทรัพย์สินของ DOD ดังนั้น หากลูกค้าย้ายไปผลิตสินค้าที่โรงงานอื่นจะต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

“บริษัทมีหนี้สินต่ำ โดยมีเงินกู้ที่ต้องเสียดอกเบี้ยคิดเป็นหนี้สินต่อทุนไม่ถึง 0.2 เท่า แต่หากรวมกับหนี้สินหมุนเวียน ซึ่งเป็นต้นทุนผลิตสินค้าและเงินที่รับจากลูกค้าล่วงหน้า จะทำให้หนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.9 เท่าเท่านั้น และบริษัทยังมีทีมวิจัยและพัฒนาสินค้าทั้งในบริษัทและเครือข่ายวิจัยภายนอก ทำให้สามารถพัฒนาสินค้าใหม่ๆออกมาต่อเนื่อง”นางนิสาภรณ์ระบุ

นายคมกฤต มีคำสัตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายตลาดทุน บล.เคที ซีมิโก้ ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย กล่าวว่า จะมีการกำหนดราคา IPO หุ้น DOD ในวันที่ 8 มิ.ย. และจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิ.ย. โดยหุ้นที่นำออกขายประชาชนทั่วไป 110 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.83% ของหุ้นทั้งหมดหลังการขาย IPO ในขณะที่หุ้นที่เสนอขายจำนวนดังกล่าวจะจัดสรรให้นักลงทุนสถาบัน 20-25%