HoonSmart.com>>แกนนำขาย SHR ออกโรงย้ำ SHR เป็นหุ้นที่มีการเติบโต (Growth Stock) รายได้และกำไร จากการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรก 2562 ยังโตต่อเนื่อง พร้อมอัพไซส์จากโรงแรม Crossroads ที่เปิดดำเนินการเต็มปีและหนี้สินที่ลดลง ด้านซีเอฟโอ มั่นใจ ปี 63 สร้างรายได้และกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่องแน่นอน
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายห้น เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) เปิดเผยว่า ความกังวลใจของนักลงทุนเรื่องผลขาดทุนสุทธิของบริษัท จึงเทขายหุ้นวันแรกที่เข้าซื้อขาย (12 พ.ย.) ทำให้ราคาต่ำกว่าพื้นฐานมาก ประกอบกับหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มโรงแรมอ่อนตัวลง
สำหรับราคา IPO ของ SHR ที่ 5.20 บาท เป็นราคา Book Value ที่เหมาะสม ของนักลงทุน ที่เข้าลงทุนโครงการต่าง ๆ ของบริษัท ในราคาเดียวกับบริษัท ซึ่งยังมีอัพไซส์อีกมาก กล่าวคือ รร.พีพี และรร.กลุ่ม Outrigger มีการบันทึกตามราคาต้นทุนที่บริษัทซื้อกิจการมา ที่ผ่านมา รร.พีพี มีราคาห้องพักที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการปรับภาพลักษณ์ของรีสอร์ทตั้งแต่ซื้อมาเมื่อปี 2557 แผนในการปรับปรุงรร.ใน Outrigger ก็ยังมีอีกมาก และโครงการ Crossroads ก็เป็นการบันทึกต้นทุนที่ราคาก่อสร้าง
หาก รร.เปิดดำเนินการ ผู้ถือหุ้นก็จะได้อัพไซส์จากรายได้และกำไร ที่โครงการทำมาหาได้ เพราะฉะนั้น downside ในมุมมองปัจจัยพื้นฐานของ SHR จึงน้อยมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2562 ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ ซึ่ง Book Value ดังกล่าว ยังไม่นับแผนขยายธุรกิจของบริษัทที่พร้อมขยายการเติบโตหลังโครงสร้างเงินทุนแข็งแกร่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งอัพไซส์ที่นักลงทุนควรพิจารณา” นายสุชาย กล่าว
หลัง IPO SHR ยังคงสถานะเป็นบริษัทในเครือของสิงห์ เอสเตท โดยกลุ่มสิงห์ เอสเตท จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และถือหุ้นใน SHR รวม 60% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท (S) ยืนยันว่า S จะถือหุ้น SHR 60 % และไม่มีแผนจะขายออกมาอย่างแน่นอน
“SHR ยังคงเป็นกลจักรสำคัญในธุรกิจโรงแรมของกลุ่ม สิงห์ เอสเตท ในการทำรายได้และกำไรต่อเนื่อง (recurring income) คล้ายการเก็บค่าเช่า ซึ่งตรงกับนโยบายของ S ที่ต้องการสร้างความสมดุลระหว่างรายได้แบบต่อเนื่องจากธุรกิจโรงแรมและสำนักงานให้เช่า และรายได้แบบ non-recurring income จากธุรกิจบ้านพักอาศัยที่ต้องมีการขายเป็นโครงการๆ ไป เพราะฉะนั้นขอให้เชื่อมั่นว่า S ยังคงถือหุ้นและสนับสนุน SHR ต่อไปแน่นอน” นายนริศ กล่าว
สำหรับผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2562 ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ SHR มีรายได้ 2,639 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 66% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และ EBITDA 9 เดือนอยู่ที่ 783 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 9%
เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้เต็ม 9 เดือนของโรงแรม 6 แห่ง ในกลุ่ม Outrigger และการรับรู้รายได้บางส่วนของโรงแรม 2 แห่ง ในโครงการ CROSSROADS ที่บริษัทฯ เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเมื่อเดือน กันยายนที่ผ่านมา แต่ค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทขาดทุนสุทธิ 299.9 ล้านบาท ในรอบ 9 เดือน ปี 2562
นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน SHR กล่าวว่า “ผลประกอบการของ SHR เป็นไปตามเป้าที่บริษัทฯวางไว้ ทั้งในส่วนของโรงแรม 8 แห่ง ที่สร้างรายได้และกำไรอยู่แล้ว และ รร. 2 แห่งใน Crossroads ที่เปิดดำเนินการเดือนแรก โดยบริษัทฯ ยังมีการเติบโตของรายได้และกำไร จากการดำเนินงานอยู่ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา โดยมีค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดขึ้นประจำและเกิดขึ้นในปีนี้เพียงปีเดียวกว่า 260 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายก่อนเปิดโรงแรม 2 แห่งในโครงการ Crossroads และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ
ประกอบกับงวด 9 เดือน 2562 บริษัทฯ ยังมีภาระต้นทุนทางการเงินที่กู้ยืมจากธนาคารมากกว่า 150 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อโรงแรม Outrigger ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวบริษัทได้ชำระคืนแล้วในวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ต้นทุนทางการเงินส่วนนี้ในปีหน้าไม่มีแน่นอน
“หากพิจารณาหัก 2 ปัจจัยนี้ จากผลขาดทุนสุทธิของบริษัท จะพบว่ากลุ่ม รร. ของบริษัทฯ ยังคงสร้างรายได้และกำไรหลักจากการประกอบธุรกิจ (Core Profit) ดังนั้นบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า หลังจากการปรับโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสม และโครงการ Crossroads เปิดดำเนินการเต็มปีในปีหน้า บริษัทฯ จะสามารถสร้างรายได้และกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่องได้แน่นอน” ผู้บริหาร กล่าว
อ่านข่าว