ตลาดหุ้นทั่วโลกกอดคอร่วง ตื่นปัญหาการเมืองอิตาลี หุ้นไทยลงไม่แรง ปิดร่วง 9 จุด ต่างชาติสาดหุ้นขายอีก 4.38 ล้านบาท เด้งรับศาล รธน. มีมติเอกฉันท์ กม.ลูกส.ส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
ดัชนีเปิดที่ระดับ 1,717.50 จุด ลดลง 17.04 จุด หรือ -0.98% ระหว่างวันตกหนัก 22 จุด ก่อนจะดีดขึ้นมาปิด 1,725.14 จุด ลดลง 9.40 จุด มูลค่าซื้อขาย 77,484 ล้านบาท ต่างชาติขายอีก 4.38 พันล้านบาท
การลดลงของตลาดหุ้นไทย ตามตลาดหุ้นดาวโจนส์สหรัฐ และตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวลงถ้วนหน้า อาทิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 339.91 จุด ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 427 จุด
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 29 พ.ค.ที่ 24,361.45 จุด ลดลง 391.64 จุด หรือ 1.58% จุด จากความกังวลต่อความไม่แน่นอนทางการเมืองในอิตาลีและสเปน ซึ่งมีผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนตัวแตะระดับต่ำสุดของปีนี้เมื่อเทียบเงินดอลลาร์
นักลงทุนยังวิตกต่อข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทำเนียบขาวได้ประกาศว่าจะใช้มาตรการภาษีในอัตรา 25% กับสินค้านำเข้าจากจีนที่มีมูลค่า 50 พันล้านดอลลาร์ แม้ก่อนหน้านี้นายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่าสหรัฐระงับสงครามการค้ากับจีนชั่วคราว
ดัชนีดาวโจนส์ที่ร่วงลงแรงระหว่างวันถึง 500 จุด เกิดจากนักลงทุนพากันเลี่ยงความเสี่ยงโดยหันไปหาสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย รวมทั้งพันธบัตรสหรัฐและพันธบัตรเยอรมนี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 2.77% จากระดับเหนือกว่า 3% ในสัปดาห์ก่อนๆ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของเยอรมนีอยู่ที่ 0.319%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงกดดันหุ้นธนาคารทั้งในสหรัฐและยุโรป เพราะนักลงทุนวิตกว่าจะกระทบต่อผลประกอบการ ทำให้หุ้นธนาคารปรับตัวลงแรง โดยหุ้นโกลด์แมนแซคส์ลดลง 3.40% และ เจ พี มอร์แกน ลดลง 4.27% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ลดลง 5.75% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ลดลง 4%
ร่วงตามต่างประเทศ คาดปัญหาการเมืองอิตาลี สเปน ใช้เวลาแก้ไข กดดันตลาดตลอดเดือนมิ.ย. ไทยมีจุดเด่นเศรษฐกิจโตเกินคาด หนุนผลตอบแทนปีนี้โดดเด่น เน้นหุ้นได้ประโยชน์กำลังซื้อเพิ่ม ท่องเที่ยว ส่งออก
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทาลิส จำกัด กล่าวว่า ปัญหาการเมืองอิตาลี สเปนจะกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกตลอดเดือนมิ.ย. เนื่องจากต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา รวมถึงหุ้นไทยด้วย แต่ราคาในระดับนี้ แนะนำให้ทยอยซื้อ ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์ จากเศรษฐกิจเติบโตดีมาก การส่งออก การขนส่ง และภาค ท่องเที่ยว
ในปีนี้ ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มโดดเด่น จะให้ผลตอบแทนที่กว่าตลาดหุ้นต่างประเทศ แม้คาดว่าต่างชาติจะขายหุ้นไทยประมาณ 1.5 แสนล้านบาทก็ตาม แนวโน้มตลาดที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากเศรษฐกิจขยายตัวสูง หลายภาคธุรกิจฟื้นตัว กำลังซื้อรถยนต์ดีขึ้น รวมถึงในปีที่ผ่านมาหุ้นไทยให้ผลตอบแทนประมาณ 13% ขณะที่ต่างประเทศให้ผลตอบแทน 20-30%