บลจ.บัวหลวงผนึก 5 พันธมิตรระดับโลก แนะกลยุทธ์ลงทุนฝ่าผันผวน

HoonSmart.com>> HoonSmart.com>> บลจ.บัวหลวง ผนึก 5 พันธมิตรระดับโลก เปิดมุมมองการลงทุน หนุนนักลงทุนเดินตามแนวโน้มระยะยาว กระจายลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย ทั้งในเชิงลึกและกว้าง เพื่อฟันฝ่าความผันผวน สู่ความสำเร็จในระยะยาว

นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2562 กองทุนบัวหลวงจัดงาน ‘Bualuang Fund Investment Forum’ เวทีสัมมนาแลกเปลี่ยนมุมมองการลงทุนระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยครั้งนี้ใช้ธีมการจัดงานว่า “Navigating Through Market Uncertainties” หรือ “นำร่องผ่านความไม่แน่นอนของตลาด” นับว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ด้วยเสียงตอบรับที่ดี จากลูกค้าที่เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง รวมทั้งพันธมิตรระดับโลก 5 ราย ได้แก่ 1.Allianz Global Investors 2.AXA Investment Managers 3.Fidelity International 4.Invesco Ltd. และ 5.Nomura Asset Management ที่เข้าร่วมสนับสนุนการจัดงาน พร้อมทั้งให้ข้อมูลในมุมมองระดับโลกที่เป็นประโยชน์กับนักลงทุน

งาน Bualuang Fund Investment Forum นับเป็นงานสำคัญที่กองทุนบัวหลวงจัดขึ้น เพื่อนำเสนอข้อมูลการลงทุนที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งคำแนะนำดีๆ ให้กับนักลงทุนสำหรับนำไปใช้เป็นแนวทางจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนเพื่อรับมือกับทุกสภาวะตลาด โดยในภาคเช้า นายพีรพงศ์ พร้อมด้วย นายพีร์ ยงวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ กองทุนบัวหลวง ให้คำแนะนำกับนักลงทุนว่า หากมองตัวอย่างของตลาดหุ้นสหรัฐย้อนกลับไป 100 ปี จะพบว่า เกิดเหตุการณ์สำคัญต่างๆ มากมาย ทั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ภาวะสงคราม รวมทั้งการถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งแต่ละครั้งทำให้ตลาดหุ้นเป็นขาลง 8 เดือน ถึง 2 ปี แต่สุดท้ายก็ผ่านพ้นได้ และโดยรวมตลาดหุ้นขาขึ้นมีมากกว่าขาลง นักลงทุนจึงไม่ควรกังวลกับสิ่งรบกวนในระหว่างทางที่ลงทุน เพราะโอกาสจากแนวโน้มระยะยาวไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป

“ความท้าทายมีมาเสมอและจะมากขึ้นเรื่อยๆ นักลงทุนต้องแยกให้ออกว่า อะไรเป็นแนวโน้มระยะยาวของแต่ละยุค เพื่อหาโอกาสลงทุน แล้วเดินตามแนวโน้มนั้น โดยไม่หวั่นไหวกับข่าวสารที่เข้ามาสร้างความกังวลระยะสั้น สำหรับแนวโน้มในระยะยาวของยุคนี้ ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล สังคมอายุยืน การให้ความสำคัญดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือ ESG ขณะเดียวกันควรต้องให้ความสำคัญกับการกระจายการลงทุน หากทำได้ตามนี้ ก็จะประสบความสำเร็จจากการลงทุนระยะยาวได้” นายพีรพงศ์ กล่าว

นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution กองทุนบัวหลวง ให้คำแนะนำถึงแนวทางการจัดสรรสินทรัพย์กับนักลงทุน ว่า ในแต่ละปีสินทรัพย์แต่ละประเภทให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกัน ไม่มีสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งที่จะให้ผลตอบแทนดีที่สุดในทุกปี ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพราะสินทรัพย์แต่ละประเภทล้วนทำหน้าที่แตกต่างกันไป

ถึงแม้ว่า การลงทุนในช่วงสภาวะที่เศรษฐกิจมีความผันผวน และเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนั้นจะมีความรู้สึกที่น่าวิตกกังวล หากพิจารณาอีกแง่มุมหนึ่ง จะเห็นได้ว่า ในความไม่แน่นอนนั้น ยังคงมีโอกาสทางการลงทุนที่แฝงอยู่ นายวศิน ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า ในการลงทุนควรให้เวลาและโอกาสแก่สินทรัพย์ที่ลงทุนนั้นได้ผลิดอกออกผล โดยอาจมีระยะเวลาประมาณ 5 ปีขึ้นไป

สิ่งสำคัญของการลงทุน คือ ทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ขาดทุนมาก (Prevent a huge loss) และทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ขาดทุนบ่อย (Minimize number of loss) เพราะทุกครั้งที่มีการขาดทุน นักลงทุนจะต้องลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนให้มากขึ้นกว่าที่ขาดทุนไป เช่น หากมีเงินลงทุน 100 บาท ขาดทุนไป 50% จะเหลือเงินลงทุนเพียง 50 บาท หากต้องการกลับไปมีเงิน 100 บาท เหมือนตอนตั้งต้น นั่นหมายความว่า ต้องลงทุนและได้อัตราผลตอบแทนที่ 100%

การจัดสรรสินทรัพย์เพื่อการลงทุน จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่นักลงทุนสามารถทำได้ทั้งในมิติของความกว้างและความลึก กล่าวคือ อาจกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย กระจายหมวดหมู่อุตสาหกรรม รวมไปถึงการยืดตัวไปลงทุนยังตลาดใหม่ๆ

“วิธีที่ดีที่สุด คือ ลงทุนอย่างต่อเนื่อง (Staying Invested) ตามเป้าหมายที่ตั้งใจ พร้อมจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง หากยังไม่เคยลงทุนในต่างประเทศเลย อาจจะลองขยายการลงทุนไปในต่างประเทศบ้าง เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสที่ดี อย่างไรก็ดี ในกรณีที่ไม่มีความชำนาญจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทด้วยตัวเอง ก็ควรจะให้ผู้จัดการกองทุนที่ไว้วางใจดูแลเงินลงทุนให้” กรรมการผู้จัดการ กล่าว

พร้อมกันนี้ ตัวแทนพันธมิตรทั้ง 5 ราย นำเสนอข้อมูลการลงทุนที่น่าสนใจให้แก่นักลงทุนภายในงาน สรุปเป็นสาระสำคัญ ดังนี้

• การคาดเดาทิศทางตลาดในอนาคตเป็นเรื่องยาก นักลงทุนต้องใช้หลักการลงทุนโดยให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลด้านความเสี่ยงและผลตอบแทน โดยในระยะสั้นการลงทุนผ่านตราสารหนี้เอเชียยังน่าสนใจ เพราะเป็นภูมิภาคที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่

• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีความน่าสนใจลงทุน เพราะมีหุ้นที่มูลค่ายังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานให้เลือก มีโอกาสเพิ่มมูลค่าจากการลงทุนในหุ้นเหล่านี้ได้

• ภาวะอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อต่ำเป็นสภาพแวดล้อมที่ดี ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้โอกาสทองเช่นนี้ พิจารณาลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่ที่จะได้ประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยนและมูลค่าหุ้นที่ยังไม่แพงเกินไปได้

• ยุคนี้เป็นโอกาสของการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยคาดว่า AI จะทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ 15.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2573 มากกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนและอินเดียรวมกันในเวลานี้ ทั้งนี้ ในยุคที่ผ่านมาการใช้ AI มุ่งเน้นทำให้คนใช้ชีวิตง่าย สะดวกขึ้น ส่วนยุคต่อจากนี้ไป จะเน้นใช้ AI เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ

• เทคโนโลยีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สามารถสร้างผู้ชนะและผู้แพ้ได้พร้อมกัน โดยมองว่า ยังมีโอกาสลงทุนอยู่ในเทคโนโลยีทางการเงิน (Fin-Tech) เทคโนโลยีที่เกิดในเอเชีย สตาร์ทอัพ เทคโนโลยีรายเล็กที่มีโอกาสชนะและจะกลายเป็นรายใหญ่ รวมไปถึงกลุ่มบริการที่ส่งเสริมเทคโนโลยี เช่น ส่วนประกอบของอุปกรณ์ที่ใช้ในเทคโนโลยีสำคัญ อย่างยานยนต์ไร้คนขับ หรือเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี นอกจากทีมผู้บริหารกองทุนบัวหลวง รวมทั้งพันธมิตรระดับโลกมาร่วมให้มุมมองที่ดีในด้านการลงทุนแล้ว นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร กองทุนบัวหลวง ให้เกียรติกล่าวเปิดงาน ในหัวข้อ “ชนชั้นกลางกับอนาคตประเทศไทย”

พร้อมกันนี้ กองทุนบัวหลวงได้รับเกียรติจากนางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (B.GRIMM) ร่วมกับนายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รับผิดชอบด้านตลาดในประเทศ รวมถึง ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist กองทุนบัวหลวง ร่วมกันฉายภาพให้เห็นถึงมุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต ในหัวข้อ “INSIGHTS ON THE THAI ECONOMY FROM LEADING EXECUTIVES IN THAILAND” นอกจากนี้ ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ นักแสดงและนักวิ่ง ยังมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน ที่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการวิ่ง ซึ่งไม่ต่างจากการลงทุน ในหัวข้อ “PUTTING LIFE INTO PERSPECTIVE WITH RUNNING” ด้วย สำหรับการจัดงานยิ่งใหญ่ระดับนานาชาติในวันนั้น เป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญ ดังคำขวัญขององค์กรที่ว่า “กองทุนบัวหลวง มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน”