HoonSmart.com>>”เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น” เตรียมเสนอขาย 80 ล้านหุ้น P/E 11.57 เท่า วันที่ 5-7 พ.ย. ฤกษ์ดีเข้าซื้อขาย mai 15 พ.ย. กลุ่มเทคโนโลยี มั่นใจกระแสตอบรับดีเยี่ยม มี Backlog ตุนไว้กว่า 378 ล้านบาท ไม่รวมโอกาสได้งานภาครัฐ-เอกชนอีกจำนวนมาก
นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) ที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้รับประกันการจัดจำหน่ายและจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชน (IPO) ของบริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS ) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น TPS จำนวน 80 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 5-7 พ.ย.นี้ คาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 15 พ.ย. 2562 ในกลุ่มเทคโนโลยี
“ราคาที่เสนอขาย 2.50 บาท/หุ้น P/E อยู่ที่ 11.57 เท่า เทียบกับบริษัทที่มีลักษณะธุรกิจคล้ายคลึงกัน เทรดที่ P/E 15.6 เท่า และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศเทรดอยู่ที่ P/E 20.68 เท่า ถือว่าให้ส่วนลดนักลงทุนในระดับที่น่าพอใจ และในอนาคต P/E มีโอกาสลดลงได้อีก จากการได้งานใหม่ และยังมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง หลังจากไอพีโอมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน ( D/E) ลดลงต่ำกว่า 1 เท่า จึงมั่นใจว่าจะเป็นหุ้นที่มีอนาคตดี และน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน”นางสาวพัชพรกล่าว
ส่วนการเสนอขายหุ้นแบ่งให้แก่กรรมการและผู้บริหารและผู้มีอุปการะคุณของบริษัทฯประมาณ 25% ส่วนใหญ่เสนอขายโดยผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์
นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) ผู้ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า บริษัทฯ จะนำเงินไปใช้ในการขยายธุรกิจ อาทิเช่น การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย การจัดตั้งศูนย์แสดงข้อมูลระบบรักษาความปลอดภัยและระบบการติดต่อสื่อสาร ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงินจากการลงทุนซื้อที่ดินและก่อสร้างอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นอกจากนี้ฐานทุนที่เติบโตทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการเข้าประมูลงานในโครงการขนาดใหญ่ขึ้น ที่สำคัญ TPS มีงานในมือรอรับรู้รายได้ประมาณ 378.42 ล้านบาท ยังไม่นับรวมโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจา โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้เติบโตสม่ำเสมอและต่อเนื่องในอนาคต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การเข้าตลาด mai จะทำให้บริษัทเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย ทำโครงการมูลค่าสูงขึ้นและต่อยอดธุรกิจมากขึ้น ขณะที่บริษัทฯมีความพร้อมทางด้านบุคลากรผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์ รวมถึงภาครัฐและเอกชนมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจำนวนมาก โดยภาครัฐมีงบประมาณรายจ่ายมากถึง 3 ล้านล้านบาท สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ส่งเสริมสังคมดิจิทัลและสร้างการเข้าถึงการใช้บริการสื่อสารอย่างเท่าเทียม ตามแผนการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจโดยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี (ประเทศไทย 4.0) และแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ทางด้านผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา (2559 – 6 เดือนแรกปี 2562) บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 595 ล้านบาท 847 ล้านบาท 536 ล้านบาท และ 321 ล้านบาทตามลำดับ โดยเฉพาะ 6 เดือนแรกของปี 2562 เติบโตกว่า 55% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและกำไรสุทธิเติบโตกว่า 503 % โดยมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) ประมาณ 34%