โฮมโปรฯ Q3/62 ยอดขายต่ำเป้า ต้นทุนขายลดหนุนกำไรโต 8.52%

HoonSmart.com>> “โฮม โปรดักส์ฯ” อวดงบไตรมาส 3/62 กำไรสุทธิ 1,482 ล้านบาท เติบโต 8.52% จากงวดปีก่อน บริหารต้นทุนขายลดลง ด้านรายได้จากยอดขายหดต่ำเป้า เหตุช่วงโลว์ซีซั่น เศรษฐกิจซบ งวด 9 เดือนกำไร 4,428 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.78% ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ชี้กำไรตามคาด คงคำแนะนำ “ซื้อ” เป้า 18.50 บาท

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2562 มีกำไรสุทธิ 1,482.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.11 บาท เพิ่มขึ้น 8.52% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,365.82 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.10 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 4,428.72 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.34 บาท เพิ่มขึ้น 12.78% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,926.85 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.30 บาท

ในงวดไตรมาส 3/2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 16,375.47 ล้านบาท ลดลง 118.48 ล้านบาท หรือ 0.72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ประกอบด้วย รายได้จากการขาย 15,219.71 ล้านบาท ลดลง 181.11 ล้านบาท หรือ 1.18% จากงวดปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายสาขาเดิมที่ไม่เป็นไปตามเป้าของธุรกิจโฮมโปรและโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย แม้ยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจเมกา โฮม จะอยู่ในระดับทรงตัวก็ตาม

รายได้ค่าเช่าและบริการ 666.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.22 ล้านบาท หรือ 11.40% เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้ามาร์เกต วิลเลจ และพื้นที่ให้เช่าของสาขาโฮมโปรและรายได้จากค่าบริการ “Home Service” และรายได้อื่น 489.38 ล้านบาท ลดลง 5.59 ล้านบาท หรือ 1.13% เป็นผลมาจากการลดลงของรายได้ส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้า

กำไรขั้นต้นมีจำนวน 4,125.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.17 ล้านบาท หรือ 1.13% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 26.49% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 27.10% โดยเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนของส่วนผสมสินค้ามีไว้เพื่อขายทั้งกลุ่มสินค้าทั่วไป และกลุ่มสินค้า Direct Sourcing รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพวางแผนการจัดซื้อสินค้าของธุรกิจโฮมโปร เมกา โฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย แม้ว่าบริษัทฯ มีต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้นก็ตาม

นอกจากนี้ต้นทุนค่าเช่าและค่าบริการมีจำนวน 346.28 ล้านบาท ลดลง 5.11 ล้านบาท หรือ 1.45% ผลจากการลดลงของต้นทุนในธุรกิจศูนย์การค้ามาร์เกต วิลเลจ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 32.56 ล้านบาท หรือ 1.07% เป็นผลมาจากการลดลงของค่าใช้จ่ายกลุ่มที่ผันแปรไปตามผลการดำเนินงาน ค่าเสื่อมราคา ค่าซ่อมแซม และค่าใช้จ่ายทางการตลาด แม้ว่าค่าใช้จ่ายกลุ่มต้นทุนค่าขนส่งและค่าสาธารณูปโภคจะยังเพิ่มขึ้นก็ตาม ทั้งนี้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายอยู่ในระดับใกล้เคียงกันจาก 19.72% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 19.74%

บริษัทฯ ระบุว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 3/2562 ถือเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจค้าปลีก ซึ่งได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น ตัวเลขด้านเศรษฐกิจไทย ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงต่พสุดในช่วง 38 เดือนที่ผ่านมา และอุทกภัยในต่างจังหวัด รวมถึงยอดขายสินค้ากลุ่มโทรทัศน์ที่สูงผิดปกติในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ทำให้การเติบโตของยอดขายในไตรมาส 3 ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า อาทิ งานโฮมโปร แฟร์ (HomePro Fair) ที่เมืองทองธานีและที่หาดใหญ่ รวมถึงกิจกรรม “ฉลองครบรอบ 23 ปี Anniversary Day ” ในช่วงวันที่ 29 ส.ค. – 29 ก.ย.2562 โดยในช่วง 9 เดือนแรก บริษัทฯ มีรายได้รวมและกำไรสุทธิ 50,493.89 ล้านบาท และ 4,428.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 3.35% และ 12.78% ตามลำดับ

ด้านการเติบโตของบริษัทย่อย เมกา โฮม มียอดขายทรงตัว ส่วนธุรกิจโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซียยังได้รับผลกระทบจากยอดขายที่สูงผิดปกติในปี 2561 จากการยกเลิกภาษีGST อย่างไรก็ตาม บริษัทย่อยมีประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น เป็นผลมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่างๆ ผ่านการปรับปรุงด้านอัตราการทำกำไรขั้นต้น และการบริหารค่าใช้จ่ายสำหรับการขยายสาขาในไตรมาสที่ 3 บริษัทฯ ได้ขยายสาขาใหม่ 2 แห่ง ที่ โฮมโปร สาขามุกดาหาร และโฮมโปรเอส สาขาสามย่านมิตรทาวน์ ส่งผลให้ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 บริษัทฯ มีสาขาโฮมโปร 84 สาขา และโฮมโปรเอส 9 สาขา เมกา โฮม 12 สาขา และ โฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 6 สาขา

บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า HMPRO กำไรสุทธิไตรมาส 3/25611 ออกมาตามคาด 1,482 ล้านบาท ลดลง 3% จากไตรมาสก่อนหน้า และเติบโต 8.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แม้ SSSG พลิกเป็น -2% Y-Y แต่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มอย่างน่าประทับใจ

ส่วนกำไร 9 เดือนปี 2562 เติบโต +13% โดยฝ่ายวิจัยยังคาดกำไรทั้งปีโต 12% และโตต่อเนื่อง 12% ในปี 2563 คงเป้าปี 2563 เท่ากับ 18.50 บาท แนะนำซื้อ