TSTH ไตรมาส 2/62 ขาดทุน 21 ลบ. ราคาเหล็กลด สำรองค่าใช้จ่ายพนง.

HoonSmart.com>> “ทาทา สตีล” พลิกขาดทุน 21 ล้านบาทงวดไตรมาส 2/62 เหตุราคาเหล็กลดลง สำรองค่าใช้จายพนักงานเกษียณอายุ ฉุด 6 เดือนกำไรลดวูบเหลือ 11 ล้านบาท จากงวดปีก่อนอยู่ที่ 107 ล้านบาท บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส มองแนวโน้มไตรมาส 3 ยังขาดทุน แนะนำเพียง “ถือ” ชะลอลงทุนหุ้นกลุ่มเหล็กไปก่อน

บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) หรือ TSTH แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2562 (กรกฎาคม-กันยายน 2562) ขาดทุนสุทธิ 20.98 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.00 บาท ลดลง 140.85% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 51.36 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.01 บาท

ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2562 กำไรสุทธิ 11.47 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.00 บาท ลดลง 89.28% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 106.97 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.01 บาท

บริษัทฯ ชี้แจงว่า ในงวดไตรมาส 2/2562 ผลการดำเนินงานลดลง เป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับคู่ค้าและคู่แข่งส่งผลกระทบด้านลบต่อการส่งออกของไทยและเศรษฐกิจไทยโดยทั่วไปความเสี่ยงจากความยากลำบากในการปรับแนวนโยบายจากการเลือกตั้งให้สอดคล้องกันอาจส่งผลลบต่อเสถียรภาพทางการเมือง สิ่งนี้ก่อให้เกิดข้อสงสัยในความสามารถของรัฐบาลในการนำนโยบายใหม่มาใช้และความเชื่อมั่นในตลาดลดลง

ด้านราคาสินค้าเหล็กในประเทศได้รับแรงกดดันจากราคาสินค้าที่อ่อนตัวในต่างประเทศ ความต้องการภายในประเทศและความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ลดลง ปริมาณขายสำหรับไตรมาสปัจจุบันอยู่ที่ 296,000 ตัน ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนและสูงกว่า 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน รายได้จากการขายต่ำกว่าไตรมาสก่อนสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่ลดลง สินค้าคงเหลือลดลง 113 ล้านบาท จากวันที่ 31 มี.ค.2562

อย่างไรก็ตาม ในด้านจำนวนวันในการขายสินค้า ณ สิ้นเดือนก.ย.2562 ยังคงอยู่ที่ 47 วัน เช่นเดียวกับสิ้นเดือนมี.ค.2562 ลูกหนี้การค้ามีอายุการเก็บหนี้อยู่ที่ 10 วัน ลดลงจาก 15 วัน ในเดือนมี.ค.2562

สาเหตุหลักที่ขาดทุนในไตรมาส 2/2562 มาจากราคาขายและปริมาณขายสินค้าที่ต่ำกว่าปีก่อนในไตรมาสก่อนได้รวมรายได้จากการชดเชยค่าสินไหมทดแทนจากการระเบิดของเตาหลอมไฟฟ้าที่ SCSC ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเดือนต.ค.ของปีก่อนและการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายจากการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายแรงงานเกี่ยวกับการจ่ายค่าชดเชยเมื่อพนักงานเกษียณอายุ

ส่วนกำไรลดลงใน 6 เดือน เนื่องมาจากราคาขายสินค้าที่ต่ำกว่าปีก่อนซึ่งบางส่วนชดเชยกับปริมาณขายที่สูงกว่าและต้นทุนที่ต่ำกว่าจากราคาเศษเหล็กที่ลดลงและต้นทุนแปลงสภาพที่ลดต่ำลงซึ่งส่วนใหญ่มาจากแนวโน้มที่ลดลงของราคาการ์ไฟต์อิเล็กโทรด

ในงวดไตรมาส 2/2562 มีปริมาณการขายสินค้า 296,000 ตัน เมื่อเทียบกับ 299,000 ตันในไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนปริมาณขายเพิ่มขึ้น 3% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากปริมาณขายเหล็กเส้นก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2562 ปริมาณขายสินค้าของบริษัทอยู่ที่ 595,000 ตัน สูงกว่าปริมาณขายสินค้า 569,000 ตัน ในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากปริมาณขายเหล็กเส้นก่อสร้างในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งชดเชยกับการส่งออกที่ลดลง

ส่วนรายได้จากการขายในไตรมาส 2/2562 อยู่ที่ 5,075 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 6% และ 13% เนื่องจากราคาขายสินค้าต่ำกว่า ในช่วง 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2562 รายได้จากการขายสูงกว่าปีก่อน 7%

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) มอง TSTH แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/62/63 (ต.ค.-ธ.ค. 2562) คาดจะยังขาดทุนต่อ โดยยังประสบปัญหาจากอุปทานที่เกิดจากผู้ผลิตจากเตาหลอมเหนี่ยวนำไฟฟ้า (Induction furnace) เพิ่มขึ้น ปัญหาสงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว เช่นเดียวกับเศรษฐกิจในประเทศ ได้ฉุดราคาเหล็กในตลาดโลก และ ในประเทศทรุดลงต่อ ดังนั้นผลประกอบการไตรมาส 3Q62/63 จะถูกกดดันจากทั้งความต้องการที่ซบเซา และ ราคาเหล็กที่ทรุดลง

อย่างไรก็ตามราคาหุ้น TSTH ได้ทรุดลงหนัก หลังกลุ่ม Hebei Steel ผู้ผลิตเหล็กชั้นนำจากจีนยกเลิกเข้าซื้อหุ้นจากกลุ่ม Tata Steel อินเดีย ที่ราคา 0.79 บาท เนื่องจากรัฐบาลมณฑลเหอเป่ย์ไม่อนุมัติ ปัจจุบันกำลังหาพันธมิตรใหม่ ราคาหุ้น TSTH ปัจจุบันซื้อขายซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น 1.09 บาท ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเป้าหมายอิงกับ ค่าเฉลี่ย 10 ปี Forward P/BV เท่ากับ 0.78 เท่า ได้เท่ากับ 0.85 บาท แม้ว่าราคาหุ้นจะซื้อขายต่ำกว่าราคาเป้าหมาย คงแนะนำ ถือ โดยช่วงนี้ให้ชะลอการลงทุนหุ้นกลุ่มเหล็กไว้ก่อน