HoonSmart.com>> ต่างชาติลุยซื้อหุ้นไทย 3.2 พันล้านบาท ดันหุ้น AWC วันแรกปิดเหนือจองเล็กน้อย 5 สตางค์ มูลค่าซื้อขายวันแรก 15.92% ของตลาด ที่ปรึกษาการเงินฯ ชี้ ราคาเหนือจอง ยังไม่ใช้กรีนชู ช่วย ด้าน “ภากร” อ้าแขนรับเข้า SET 50 ทันที
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันที่ 10 ต.ค.2562 ยังซบเซา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ขณะที่หุ้นใหญ่ แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) ซื้อขายวันแรก ไม่สามารถสร้างความคึกคักให้ตลาดหุ้นได้ โดยราคาเปิด 6 บาท เท่าราคาเสนอขายนักลงทุนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จากนั้นราคาเคลื่อนไหวแคบๆ สูงสุด 6.10 บาท ก่อนจะปิดที่ 6.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.83 % ซื้อขายอันดับ 1 มูลค่า 8,130.13 ล้านบาท คิดเป็น 15.92% ของตลาด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ 1,607.50 จุด ลดลง 8.68 จุด มูลค่าซื้อขาย 51,063.70 ล้านบาท ต่างชาติซื้อหนัก 3,210.44 ล้านบาท , รายย่อยซื้อ 2,542.51 ล้านบาท ส่วนสถาบัน-กองทุน ขายหนัก 4,227.15 ล้านบาท และพอร์ตโบรกเกอร์ ขาย 1,525.80 ล้านบาท
ด้านนางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AWC กล่าวว่า รู้สึกพอใจราคาหุ้นวันแรก และคิดว่ารากฐานการดำเนินธุรกิจที่มั่นคงยั่งยืน เป็นตัวสะท้อนราคาหุ้นระยะยาว
ขณะที่นางสาววีณา เลิศนิมิต กรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ (SCBS) ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน AWC ให้ความเห็นราคาหุ้นเหนือจอง เป็นแรงซื้อจากนักลงทุนที่เชื่อมั่นการเติบโตของธุรกิจ โดยยังไม่ได้ใช้ Greenshoe Option ทั้งนี้ หลักการใช้ Greenshoe Option ต่อเมื่อ ราคาหุ้นต่ำกว่าจอง
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่า P/E ของ AWC อยู่ในระดับที่กว่า 200 เท่า นั้น มองว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่นั้นค่า P/E จะไม่สะท้อนมูลค่าหุ้นที่แท้จริง โดยทาง AWC ยังมีสินทรัพย์ที่สามารถใช้สินทรัพย์โอนจากกลุ่มเข้ามาได้อีก ซึ่งก็จะทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น และค่า P/E ก็จะลดลง
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า หุ้น AWC สามารถเข้าคำนวณ SET 50 ได้ทันที หลังจากผ่านเกณฑ์มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด และผ่านเกณฑ์การพิจารณาอื่น ๆ ตามกฎของตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า ดัชนี MSCI จะคำนวณเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยเพิ่มขึ้นหรือไม่ ต้องดูตลาดหุ้นภูมิภาคน่าสนใจกว่าตลาดหุ้นไทยหรือไม่
ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จะนำหุ้นของ AWC เข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.2562 เป็นต้นไป และนำหุ้รของธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) และบริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) ออกจากองค์ประกอบของดัชนี SET50 และ SET100 ไปอยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์สำรอง (Reserve List) ของแต่ละดัชนีตามลำดับ
ทั้งนี้ สำหรับเกณฑ์ฟาสต์แทร็กเข้า SET50 ประกอบด้วย 1.มาร์เก็ตแคปมากกว่า 1% ของทั้งตลาด (AWC 1.13%) 2.มาร์เก็ตแคปติด 20 อันดับแรก ใน SET50 (AWC = 1.92 แสนลบ.อันดับ 19) และ 3.ตลาดหลักทรัพย์จะนำหุ้นดังกล่าวมาคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ในอีก 3 วันทำการ หลังจากที่หุ้นตัวนั้นเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก