ดีบีเอสฯ ชี้ฝุ่นพิษรีเทิรน์ หนุนหุ้นการแพทย์ ชู RJH-CHG

HoonSmart.com>> บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส มองหุ้นการแพทย์ได้ผลดี ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 รีเทิร์น ผสมช่วงไฮซีซั่นธุรกิจ มองรพ.ขนาดกลาง น่าสนใจ ได้รับผลกระทบจำกัดรัฐคุมราคายาและค่าบริการ แนะนำซื้อ RJH-CHG

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส ออกบทวิเคราะห์กรณีเกิดปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐานในกรุงเทพฯ คาดเป็นบวกกับหลักทรัพย์ให้บริการทางการแพทย์ ที่จะมีผู้ป่วยมากขึ้น จากปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 รวมทั้งอากาศในประเทศไทยที่มีความผันผวนในขณะนี้ ทำให้มีโอกาสที่จะประชาชนจะเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับแนวโน้มผลการดำเนินงาน ไตรมาส 3/62 จะออกมาดี ด้วยแรงสนับสนุนฤดูกาลที่ดีที่สุดของธุรกิจ (High Season) ถือว่าหลักทรัพย์กลุ่มนี้ไม่ผันแปรตามเศรษฐกิจ (Defensive Stocks) จึงทำให้มีความปลอดภัยในการลงทุนระดับหนึ่ง มีความผันผวนน้อย ไม่เป็นไปตาม SET ในระยะนี้ที่ผันผวนมากทั้งปัจจัยต่างประเทศและในประเทศ

สำหรับหลักทรัพย์ที่น่าสนใจในกลุ่มการแพทย์ เป็นโรงพยาบาลขนาดกลาง เน้นลูกค้าคนไข้ระดับปานกลาง-ล่างเพราะคาดว่าจะได้รับผลกระทบจำกัด จากนโยบายจากภาครัฐในการควบคุมราคายาและบริการรักษา คือที่ผ่านมาไม่ได้เก็บสูงมากอยู่แล้ว อีกทั้งมี ส่วนเพิ่มได้ (Upside Risk) จากสำนักงานประกันสังคมอาจจ่ายเงินชดเชยเพิ่มเริ่มตั้งแต่ ม.ค.63 ตามที่โรงพยาบาลได้เรียกร้องไป ได้แก่ RJH และ CHG

หุ้น RJH ราคาปิด 26.00 บาท เมื่อวันที่ 30 ก.ย.62 คำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 33.00 บาท- คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/62 จะเติบโตเป็นเลขสองหลัก รายได้ใน ไตรมาส 3/62 เติบโตดีจาก U rate ที่สูง 75% ทั้งในส่วน IPD และ OPD เพราะเป็นฤดูฝน แนวโน้มไตรมาส 4/62 แข็งแกร่ง จากรายได้ที่เติบโตและอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากการเพิ่มบริการที่ซับซ้อนมากขึ้น ประมาณการ Core profit ปี 2562 เติบโต +39% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 354 ล้านบาท มีการเติบโตแข็งแกร่ง, ฐานะการเงินดีมากเป็นเงินสดสุทธิ และมี Valuation จูงใจ โดยซื้อขายที่ P/E ปี 62 เท่ากับ 22.0 เท่า ต่ำกว่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 30.0 เท่า และปี 63 เท่ากับ 19.8 เท่า

ด้าน CHG ราคาปิด 2.46 บาท เมื่อวันที่ 30 ก.ย.62 คำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 2.70 บาท คาด Core Profit ไตรมาส 3/62 ฟื้นตัว เพราะรายได้เพิ่มขึ้นและมาร์จิ้นขยายตัว ผลขาดทุนใน 2 โรงพยาบาลเปิดใหม่น้อยลง ผลประกอบการปี 2019F-2020F แข็งแกร่ง ทั้งจากส่วนโรงพยาบาลที่มีกำไรและส่วนโรงพยาบาลใหม่ที่ขาดทุนน้อยลง เราประเมิน Core Profit งวดครึ่งปีหลังของปี 62 จะเติบโต +36.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มจากงวดครึ่งปีแรกของปี 62 ที่ +18.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) และดีต่ออีก +15.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ในปี 63

“แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 2.70 บาท (DCF) จุดเด่น คือ เป็นกลุ่มโรงพยาบาลที่ครอบคลุมพื้นที่แถบภาคตะวันออก ได้ประโยชน์จากการขยายตัวในพื้นที่ EEC สำหรับ P/E ปี 19F เท่ากับ 41.0 เท่า แต่จะลดลงเป็น 35.1 เท่าในปี 2563″บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุ