ดาวโจนส์ร่วง หลังทรัมป์ยกเลิกประชุมเกาหลีเหนือ แต่เปิดโอกาสที่จะเปิดการประชุมครั้งใหม่ ราคาน้ำมันลดลง 1.31 ดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 23 พ.ค. ที่ 24,811.76 จุด ลดลง 75.05 จุด หรือ 0.30% กระเตื้องขึ้นจากจุดต่ำสุดของวัน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ที่สิงคโปร์ ส่งผลให้นักลงทุนตื่นตระหนกและพากันเทขายหุ้นออก
อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีทรัมป์เปิดโอกาสที่จะเปิดการประชุมครั้งใหม่ โดยระบุในจดหมายว่า โลกนี้ โดยเฉพาะเกาหลีเหนือ ได้สูญเสียโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับการมีสันติภาพที่ยั่งยืน รวมทั้งความร่ำรวย และความมั่งคั่ง หากท่านได้เปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประชุมสุดยอดที่มีความสำคัญสูงสุดนี้ อย่าได้ลังเลที่จะโทรศัพท์หรือเขียนจดหมายถึงผม”
รายงานข่าวการตรวจสอบรถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ ยังกดดันตลาดเพราะวิตกว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูงถึง 25%
นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงทำให้เกิดแรงเทขายในหุ้นพลังงาน โดยเฉพาะหุ้นเอ็กซอนโมบิล และเชฟรอน คอร์ปที่มีน้ำหนักในดัชนีดาวโจนส์
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,727.76 จุด ลดลง 5.53 จุด หรือ -0.20%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,424.43 จุด 1.53 จุด หรือ -0.1%
ทางด้านตลาดยุโรปปิดลดลง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ท่ามกลางความกังวลต่อสงครามทางการค้าหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งการตรวจสอบว่า รถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูงถึง 25%
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,716.74 จุด ลดลง 71.70 จุด% ,-0.92%
ดัชนี Stoxx Europe 600 index ปิดที่ 390.54 จุด ลดลง 2.04 จุด, -0.52%
ดัชนี DAX 30 ปิดที่ 12,855.09 จุด ลดลง 121.75 จุด,- 0.94%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,548.45 จุด ลดลง 17.40 จุด, -0.31%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์
ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ปิดที่ 78.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์