HoonSmart.com>>บล.ไทยพาณิชย์มองตลาดหุ้นตกมา 3 สัปดาห์พอแล้ว สัปดาห์หน้ามีโอกาสฟื้นตัว นำโดยกลุ่มท่องเที่ยวและการแพทย์ แนะนำ BDMS จากราคาหุ้นร่วงสวนตลาด เป็นโอกาสทยอยซื้อก่อนไตรมาส 4 กำไรฟื้น ส่วนปีหน้าโตเกือบ 17% ส่วนพอร์ตลงทุนระยะยาว ยังคงเน้นมั่นคงปลอดภัย กองทุนอสังหาฯ หุ้นปันผล หุ้นกู้ชั้นดี ทองคำ
บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) คาดแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์ที่จะถึง (30 ก.ย.-4 ต.ค.62 ) คาดดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฟื้นตัวหลังจากตลาดอ่อนตัวมาแล้ว 3 สัปดาห์สะท้อนความกังวลของตลาดไปพอสมควรแล้ว โดยหุ้นที่ฟื้นตัวได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวและการแพทย์ แนะนำบริษัทกรุงเทพ ดุสิตเวชการ( BDMS) เป็นหุ้นเด่น มองว่าช่วงนี้เป็นโอกาสทยอยซื้อก่อนกำไรฟื้นตัวในไตรมาส 4 เพราะอุปสงค์ด้านการแพทย์กำลังเพิ่มขึ้น หลายจังหวัดมีผู้ปวยไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ และมือเท้าปาก เพิ่มขึ้น BDMS จะได้อานิสงส์มากที่สุด เพราะมีโรงพยาบาลกระจายอยู่ทั่วทุกภาค ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมา 4% สวนทางดัชนีตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 4.6%
ฝ่ายวิจัย SCBS คาดว่าปี 2562 BDMS มีกำไรปกติ 9,370 ล้านบาท หดตัว 5.5% แต่จะพลิกฟื้นเติบโต 16.9%ในปี 2563 ตามการขยายตัวของตลาดผู้ป่วยทั้งไทยและต่างชาติ และยังรับรู้การขยายเครือข่ายให้บริการต่อเนื่อง ประเมินราคาเป้าหมายกลางปี 2563 ที่หุ้นละ 28 บาท คาดมีเงินปันผลหุ้นละ 0.33 บาท
อย่างไรก็ตามกำไรไตรมาส 3 ยังมีแนวโน้มอ่อนแอ เพราะถูกกดดันจากการต้องรับรู้ต้นทุนเริ่มแรกของโรงพยาบาลใหม่ แต่ไตรมาส 4 คาดศักยภาพทำกำไรจะเริ่มเพิ่มขึ้น และรายได้ค่ารักษาน่าจะยังเติบโตต่อเนื่องจากสถานการณ์ผู้ป่วยโรคระบาดในไทยสูงกว่าปีก่อน อาทิ ไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ มือเท้าปาก
สำหรับการลงทุนระยะยาวบล.ไทยพาณิชย์ ยังคงให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคงที่ เช่น กองทุนอสังหานิมทรัพย์ (REITs) กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หุ้นกู้บริษัทที่มีสถานะทางการเงินดี หุ้นปันผลและทองคำ แนะนำราคาบริเวณ 1,450-1,500 เหรียญ/ออนซ์เป็นช่วงที่น่าสนใจเข้าไปลงทุน ในกรณีที่มีการปรับตัวลงมาใน
“มองว่าพัฒนาการที่ดีขึ้นของความขัดแย้งทางการค้าจะเป็นเพียงชั่วคราว แม้จะมีผลบวกต่อสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆในระยะสั้น แต่การลงทุนก็ยังต้องทำด้วยความระมัดระวัง” บล.ไทยพาณิชย์ระบุ
สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นผันผวนจากหลายปัจจัยเสี่ยง โดยนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง เป็นสัปดาห์ที่ 9 ที่ 78.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินสหรัฐแข็งค่าขึ้น ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงบ้างมาอยู่ที่ 30.6 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินหยวนอ่อนลงเล็กน้อยที่ 7.13 หยวนต่อดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงอย่างต่อเนื่อง