HoonSmart.com>> ธนาคารไทยพาณิชย์ ขายหุ้น SCBLIFE จบ บันทึกกำไร 1.1 หมื่นล้านบาทในงวดไตรมาส 3/62 เซ็นสัญญาขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต หุนนรายได้ระยะยาว
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) แจ้งว่า ตามที่ธนาคารได้ตกลงขายหุ้นในบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต (SCBLIFE) และการจะเข้าทำสัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคารระยะยาวกับ FWD Group Financial Services Pte.,Ltd. (สัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต) นั้น ขณะนี้ธนาคารได้ดำเนินการขายหุ้นในบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต (SCBLIFE) เสร็จสมบูรณ์แล้ว และธนาคารได้เข้าทำสัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ (26 ก.ย.)
การขายหุ้นดังกล่าว ธนาคารได้รับเงินทั้งสิ้น 9.27 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดกำไรจากธุรกรรมการขาย (หลังหักภาษี) จำนวน 1.1 หมื่นล้านบาทโดยประมาณ นอกจากนี้ธนาคารจะทยอยรับรู้เงินจำนวน 1.77 หมื่นล้านบาท เป็นรายได้ตลอดระยะเวลา 15 ปี ตามนโยบายบัญชีของธนาคาร โดยผลของกำไรจากธุรกรรมการขายนี้ต่อกำไรสุทธิในไตรมาส 3/62 ของธนาคารยังขึ้นกับปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจที่ธนาคารจะต้องพิจารณาในรายละเอียดต่อไป
ทั้งนี้ ธนาคารยังจะได้รับค่าตอบแทนสำหรับการขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตลอดช่วงระยะเวลาความร่วมมือในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคาร โดยการเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือด้านประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์
ด้านกลุ่มเอฟดับบลิวดี ได้ประกาศแต่งตั้งนายเดวิด โครูนิช เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ภายหลังจากที่กลุ่มเอฟดับบลิวดีได้เข้าทำการซื้อหุ้นของ SCBLIFE จากธนาคารไทยพาณิชย์ โดยสมบูรณ์แล้ว
นายเดวิดจะรับผิดชอบงานทางด้านการบริหารธุรกิจ และสร้างการเติบโตให้กับ SCBLIFE ในประเทศไทย รวมถึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัทฯ โดยรายงานตรงต่อนายฮวิน ทัน ฟง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเอฟดับบลิวดี
ทั้งนี้ นายเสถียร เลี้ยววาริน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จะยังคงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโส เพื่อช่วยสนับสนุนให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก่อนที่จะกลับเข้าไปร่วมงานกับธนาคารไทยพาณิชย์ต่อไป
สำหรับนายเดวิดมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปีในธุรกิจประกันชีวิต โดยก่อนหน้านี้ เคยดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้กรุงไทย-แอกซ่า เติบโตขึ้นเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ (นับจากเบี้ยรับรวม) และได้รับรางวัลมากมายทั้งในบทบาทของการดำเนินธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม
“นี่คือโอกาสดีที่เราจะได้สร้างมุมมองใหม่ให้กับธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย ตลาดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาสอันท้าทายและน่าตื่นเต้น เราพร้อมที่จะสร้างความแตกต่าง เพื่อปรับเปลี่ยนมุมมองของลูกค้าที่มีต่อการประกันชีวิตในรูปแบบเดิมๆ” นายเดวิด กล่าว
bsp;
