“นักลงทุนรายย่อย” หมดแรงเก็งกำไร โอดเงินจม ติดหุ้นปตท. ดัชนีร่วงหนัก 21 จุด ส่อหลุด 1,730 จุด ส่วน PTT ลงอีก 5.14%
มาร์เก็ตติง กล่าวว่า ลูกค้าที่เป็นนักลงทุนระดับกลางและรายย่อย หยุดการซื้อขายหุ้นในช่วงนี้ไม่มีเงินสำหรับการเก็งกำไร เนื่องจากเงินลงทุนส่วนใหญ่ไปติดอยู่ในหุ้นบริษัทปตท.(PTT) หลังจากเห็นราคาปรับตัวลงไปมาก จึงเข้าไปซื้อหวังว่าราคาหุ้นจะดีดกลับ แต่ราคากลับยิ่งลดลง จนไม่สามารถตัดขายขาดทุนได้ในขณะนี้
“หุ้นปตท.กลายเป็นหุ้นมวลชนแล้ว โดยเฉพาะหลังแตกพาร์ นักลงทุนเข้าไปเก็งกำไรด้วยการใช้เม็ดเงินลงทุนที่น้อยกว่าตอนราคาพาร์ 10 บาท และแนวโน้มราคาน้ำมันสูงขึ้น รวมถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 จะฟื้นตัวกว่าไตรมาส 1 แต่กลับกลายเป็นไปติดหุ้นพื้นฐานดี”แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับราคาหุ้น PTT ปรับตัวลงแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา ราคาลดลง 1.75 บาทหรือ 3.17% ปิดที่ 53.50 บาท ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 14,853 ล้านบาท หลังจากบริษัทหลักทรัพย์เครดิตสวิส ลดน้ำหนักการลงทุน หลังจากราคาหุ้นซื้อขายสูงกว่ามูลค่าเหมาะสมที่ให้ไว้ 54 บาท ทำให้นักลงทุนต่างชาติมียอดขายหุ้นสุทธิ 4,944 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 4,868 ล้านบาท
ล่าสุด PTT ยังถูกเทขายอย่างหนัก ปิดตลาด 24 พ.ค.2561 ที่ราคา 50.75 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ -5.14% มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 12,216.94 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ 1,732.51 จุด ลดลง 21.09 จุด หรือ -1.20% มูลค่าการซื้อขาย 64,406.97 ล้านบาท
สำหรับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ คาดว่ายังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดหุ้นไทยภาคเช้า อ่อนแอกว่ากลุ่ม TIP แรงขายส่วนหนึ่ง อาจเตรียมเงินไว้ซื้หุ้นจีนหลังจากที่ MSCI Emerging Market Index จะนำหุ้น A-Share ของจีนกว่า 200 ตัวเข้าคำนวนมีผลวันที่ 31 พ.ค.
นอกจากนี้ตลาดยังรับแรงกดดันสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ รวมถึงดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าหนุนให้ เงินทุนไหลออก จะนำหุ้น A-Share ของจีนกว่า 200 ตัวเข้ามาคำนวนดัชนี ซึ่งจะมีผลในวันที่ 31 พ.ค.นี้ ถือว่าเป็นการปรับครั้งใหญ่ ส่งผลให้นักลงทุนต้องปรับพอร์ตการลงทุนไปด้วย
ก่อนหน้านี้ นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า นักลงทุนอย่าตื่นตระหนกเกินไปกับแรงขายหุ้นที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยหุ้น PTT ยังถือเป็นหุ้นที่สามารถลงทุนได้ในระยะยาว
กรณีมาตรการกระทรวงพลังงานที่ตรึงราคาน้ำมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อปตท. เพราะเป็นการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเข้ามาช่วยบริหารจัดการ ประกอบกับยังมีกลไกทางภาษีสรรพสามิต เพื่อใช้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซ LPG ขณะที่ PTT มีแนวทางจะช่วยเหลือผู้บริโภคในช่วงราคาน้ำแพง คือ ชะลอปรับขึ้นค่าการตลาดในช่วงราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น