MFC ชูเวียดนามโดดเด่น ส่งทริกเกอร์ฟันด์เข้าลงทุน

บลจ.เอ็มเอฟซี มองเศรษฐกิจเวียดนามโดดเด่น คาดเติบโต 6.8-7% ในปี 2561-62 กำไรบริษัทโตสูงสุดในอาเซียนถึง 18% ในปีหน้า จากปัจจัยหลักสัดส่วนวัยแรงงานมากถึง 48.7% ของประชากรและค่าแรงต่ำ หนุนเม็ดเงินจากต่างประเทศสูงสุดในรอบ 10 ปี

นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี เปิดเผยว่า จากคาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตน่าสนใจ เอ็มเอฟซีจึงเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกรท อินเวสเมนท์ 5 อีเอ็ม 2 ( GI5EM2) ตั้งแต่วันนี้-8 มิ.ย.นี้ ซึ่งตั้งเป้าหมายเพื่อเลิกกองทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนตั้งแต่ 10.60 บาทภายใน 5 เดือน สามารถลงทุนได้ทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ โดยจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและมีแนวโน้มการเติบโตสูงของเวียดนาม ไทย และประเทศอื่นๆ ที่เป็นตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท

กองทุนเปิด GI5EM2 มีสัดส่วนลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน ซึ่งบริษัทจัดการจะจัดสัดส่วนการลงทุนตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ทั้งนี้มีความมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) โดยผู้ลงทุนจะไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 5 เดือนได้ และกองทุนนี้กระจุกตัวในผู้ออก ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก

จากข้อมูลของสายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซี มองว่ามีปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างโดดเด่น โดยเติบโต 6.8% ในปี 2560 และคาดการณ์เติบโตในระดับ 6.8-7.0% ในปี 2561-62 ปัจจัยหลักมาจากการที่ประเทศเวียดนามมีประชากร 94 ล้านคน อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 30.5 ปี และมีสัดส่วนวัยแรงงาน (อายุ 25-44 ปี) มากถึง 48.7% ของประชากรทั้งหมด รวมถึงค่าแรงยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทยักษ์ใหญ่ อาทิเช่น Samsung และ LG โยกเม็ดเงินลงทุนมาสู่ประเทศเวียดนามเพื่อใช้เป็นฐานการผลิตและส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยในปี 2560 มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) มากถึง 3 หมื่น 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สำหรับตลาดหุ้นเวียดนาม ปัจจุบันซื้อขายที่ PE 18 เท่า และคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทเติบโต 18% ในปี 2562 สูงสุดในกลุ่มอาเซียน

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือ เศรษฐกิจพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก และตลาดหุ้นเวียดนามยังถูกจัดกลุ่มอยู่ใน Frontier Market (ข้อมูลทางบัญชียังไม่เป็นมาตรฐานสากล รวมถึงสภาพคล่องต่ำ) ทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนในระดับสูง

สำหรับกองทุนเปิด GI5EM2 จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเข้ากองทุนเปิด MM-GOV กรณีภายใน 5 เดือนแรกเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนละ 10.60 บาทขึ้นไปเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกันหรือทรัพย์สินกองทุนเป็นเงินสด หรือกรณีภายหลัง 5 เดือนแรกบริษัทจะเปิดซื้อขายหน่วยลงทุนทุกวันทำการ หากเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนละ 10.55 บาทขึ้นไปเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกันหรือทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสด บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและจะเลิกโครงการกองทุนดังกล่าว

กองทุนเปิด GI5EM2 เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในตราสารแห่งทุน คาดหวังโอกาสจากการลงทุนดังกล่าวและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน สามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนไปลงทุน ซึ่งอาจปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้ ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้มูลค่าหน่วยลงทุนเป้าหมายเลิกกองทุนไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุน และผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนก่อนระยะเวลา 5 เดือนได้ และหากภาวะตลาดหรือภาวการณ์ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากที่คาดการณ์ทำให้มูลค่ากองทุนรวมไม่ถึงตัวเลขเป้าหมายภายในเวลาที่กำหนด กองทุนจะเปิดให้ซื้อขายได้อีกครั้ง กรณีกองทุนไม่เข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุนภายใน 5 เดือน