ทิสโก้ลดเป้าอสังหาฯ แนะซื้อ LH-QH-SPALI-AP/PF ยันรายได้เข้าเป้า 2.5 หมื่นลบ.

HoonSmart.com>>อสังหาริมทรัพย์ยังไม่ดีขึ้น บล.ทิสโก้ปรับประมาณการปี 2562-2563 อีกครั้ง ลดลง 5.7-8.5% คาดยอดจองของกลุ่มร่วงแรง  16.5% จากปีก่อน  SIRI-LPN โดนเต็มๆ ส่วน  AP, SPALI ราคาน่าสนใจ มาอยู่เท่าต้นปี  ส่วนพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคยันครึ่งปีหลังรายได้ 15,000 ล้านบาท ธุรกิจโต ขายที่ดิน-หุ้น-โรงแรมช่วย  ตั้งเป้าต้นปีคืนหนี้ 5 พันล้าน

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ปรับลดประมาณการผลการดำเนินงานของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปี 2562-2563 ลง 5.7-8.5% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ และยอดจองที่ลดลง โดยปรับลดคาดการณ์กำไรต่อหุ้นลง 7.8% สำหรับปี2562 และ 1.4% สำหรับปี 2563

กลยุทธ์การลงทุนเน้นอสังหาฯ รายตัว  บล.ทิสโก้ยังคงแนะนำ “ซื้อ” LH มูลค่าที่เหมาะสม 12.40 บาท QH มูลค่าที่เหมาะสม 3.70 บาท และเพิ่ม SPALI มูลค่าที่เหมาะสม 22.60 บาท   AP มูลค่าที่เหมาะสม 8.60 บาท ใช้ P/E เฉลี่ยย้อนหลังในการประเมินมูลค่าที่เหมาะสม เน้นกลุ่ม Low-rise และงานในมือที่สูง สำหรับคอนโดมิเนียมในปี 2562-2563 พร้อมปรับประมาณการปี 2563

ปัจจุบันหุ้น AP และ SPALI ปรับตัวลงมา ณ ราคาต้นปี แม้ว่าจะมียอดจองและงานในมือที่เพิ่มขึ้น (รองรับรายได้ 60-70% ของโครงการคอนโดฯ)

บล.ทิสโก้ มีการปรับลดประมาณรายได้  SIRI และ LPN จากงานในมือที่ลดลง, ยอดจองที่ลดลงในช่วง 8 เดือนแรกของปี และการยกเลิกการจองที่สูง นอกจากนี้ได้ปรับรายได้บางส่วนจาก JV ของ AP เป็นปี 2562 จากเดิม 2563 และปรับประมาณการของ PSH เล็กน้อย คาดว่ารายได้ของกลุ่มจะโต 1.3% ในปีนี้และ 2.5% ในปีหน้า

ในปี 2562 ยอดจองของกลุ่มถูกปรับลดลง 16.5% จากปีก่อน จากเดิมที่ 7% สะท้อนยอดจองที่อ่อนแอลง และเลื่อนการเปิดตัว ผู้บริหารคาดว่า ยอดจองจะลดลง 8% และอ่อนแอสุดจาก SIRI และ QH โดย  8 เดือนแรก อยู่ที่ 57% ของเป้าบริษัทและ 61% ของเรา เชื่อว่ายอดจองจะกลับมาดีขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 จากการเปิดตัวโครงการที่เพิ่มขึ้น

ธุรกิจได้รับผลเชิงบวกคือ อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการในระดับต่างๆ และในต่างจังหวัด, มาตรการกระตุ้นภาครัฐ แต่มีความเสี่ยงเชิงลบคือ การยกเลิกการจอง, ค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น, วงเงินสินเชื่อที่ลดลง และการปฏิเสธสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น

ทางด้านบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) นางสาวศิริรัตน์ วงศ์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการเงิน กล่าวว่า ในปี 2562 บริษัทจะมีรายได้รวมเข้าเป้าหมาย 25,000 ล้านบาท ครึ่งปีแรกทำได้ 10,000 ล้านบาท ครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 ล้านบาท จากการดำเนินงานที่ดีขึ้น รวมถึงการขายที่ดินและเงินลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท และยังมีรายได้จากธุรกิจโรงแรมและอื่นๆ อีก 2,000 ล้านบาท

นางสาวศิริรัตน์ กล่าวว่า ในครึ่งปีหลัง บริษัทจะรับรู้รายได้ทั้งจากโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ เป็นโครงการแนวราบ 6,000 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียม 6,000 ล้านบาท รวมคอนโดมิเนียมในประเทศญี่ปุ่น “ยู คิโรโระ” จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในเดือนธ.ค.นี้ 1,900 ล้านบาท ณ สิ้น ไตรมาส 2/2562 บริษัทมียอดขายที่สามารถรับรู้รายได้ (Backlog) ในครึ่งปีหลังแล้วจำนวน 4,797 ล้านบาท

“ผลงานที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทสามารถลดภาระหนี้ลงได้อย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายที่จะลดหนี้ลง 5,000 ล้านบาท ภายในต้นปี 2563  ส่งผลให้บริษัทมีอันดับความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น  เป็นประโยชน์ต่อการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง  ส่วนหุ้นกู้ที่เสนอขายในระหว่างวันที่ 23-25 ก.ย. เพื่อชำระคืนหนี้เดิม จึงไม่เพิ่มภาระหนี้ให้แก่บริษัทฯ” นางสาวศิริรัตน์กล่าว