สหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ 25%

แถลงการณ์กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ได้เริ่มตรวจสอบเพื่อประเมินรถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้นเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ ตามที่ประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐ ได้สั่งการนายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

แถลงการณ์ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด เพราะเป็นการดำเนินการในขณะที่สหรัฐกำลังมีข้อขัดแย้งทางการค้ากับหลายประเทศ แม้แต่ประเทศพันธมิตร โดยเฉพาะในประเด็นภาษี การขู่ว่าจะใช้มาตรการทางภาษี และการร้องเรียนต่อองค์กรการค้าโลก(WTO)

การตรวจสอบดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามมาตรา 232 ภายใต้กฎหมาย Trade Expansion Act of 1962 ที่ให้อำนาจกระทรวงพาณิชย์พิจารณาว่า การนำเข้าสินค้าใดก็ตามนั้นมีผลต่อความมั่นของสหรัฐหรือไม่ และเป็นมาตราเดียวกันที่สหรัฐใช้เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อไม่นานมานี้

นอกจากนี้ยังเป็นการดำเนินการต่อการส่งออกและนำเข้าที่ไม่เคยมีปัญหามาก่อน โดยเริ่มจากประเทศพันธมิตรที่เก่าแก่ อย่าง ญี่ปุ่น เยอรมนี และเกาหลีใต้

ผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐเองก็ได้ไปตั้งฐานการผลิตชิ้นส่วนในเม็กซิโก แคนาดาและนำเข้ามาสหรัฐ
แถลงการณ์กระทรวงพาณิชย์สหรัฐกล่าวว่า การตรวจสอบจะประเมินว่า รถยนต์นำเข้าและชิ้นส่วนนำเข้านั้นมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐหรือไม่ รวมทั้งมีผลต่อความสามารถในการพัฒนาและวิจัย ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยี

นายรอสส์กล่าวว่า มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานั้น การนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐ อย่างไรก็ตามให้คำมั่นว่า การตรวจสอบจะกระทำอย่างรอบคอบและละเอียด ตรวจสอบอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส