HoonSmart.com>>บีกริมฯ เปิดโรงไฟฟ้า DAU TIENG 1 และ DAU TIENG 2 กำลังการผลิตติดตั้งรวม 420 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ถือเป็นก้าวสำคัญผงาดขึ้นเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค เดินหน้าลงทุนหลายประเทศเข้าสู่เป้าหมาย 5,000 MW
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ของประเทศ เปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินโครงการ DAU TIENG 1 และ DAU TIENG 2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 420 เมกะวัตต์ อย่างเป็นทางการ ในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยมี นาย หว๋อ วัน เทื่อง Head of Propaganda and Training Commission, Member of Politburo นายเหงียน วัน บิง Head of Economic Commission, Member of Politburo และ พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา, อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธานกรรมการ และนางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ รวมถึงผู้บริหารหน่วยงานรัฐและเอกชนทั้งของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและประเทศไทยเข้าร่วมพิธีเปิดโรงไฟฟ้าอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 กันยายน 2562
นาย ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานกรรมการ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ กล่าวว่า กลุ่ม บี.กริม ร่วมบุกเบิกด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคมากกว่า 141 ปี โดย BGRIM เป็นบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมไทยมากว่า 20 ปี รวมถึงการขยายธุรกิจไปสู่ระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง โดยสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพการลงทุนสูง ด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจกว่า 6-7% ต่อปี และมีการสนับสนุนด้านพลังงานทดแทนอย่างจริงจัง
“การเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ DAU TIENG 1 และ DAU TIENG 2 ที่เวียดนาม ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนนั้น ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค ซึ่งจะนำไปสู่การขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง” ประธานกรรมการ BGRIM กล่าว
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ กล่าวว่า โรงไฟฟ้าโครงการ DAU TIENG 1 และ DAU TIENG 2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 420 เมกะวัตต์ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ Electricity of Vietnam (EVN) แล้วเมื่อวันที่ 3 และ 13 มิ.ย. 2562 ตามลำดับ มีสัญญาการรับซื้อไฟฟ้าในอัตรา 9.35 เซ็นดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง สร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงเป็นระยะเวลา 20 ปี
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2562 BGRIM ได้ CODโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Phu Yen TTP ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 257 เมกะวัตต์ ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์รวมกว่า 677 เมกะวัตต์ สร้างรายได้จำนวน 181 ล้านบาท ในเดือนมิ.ย. ส่งผลให้กำลังการผลิตที่เปิดดำเนินการแล้วเติบโตกว่า 40% จากช่วงต้นปี เพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตจากพลังงานทดแทนเป็น 30% จากเดิม 8%
ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานอื่นๆ BGRIM อยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ขนาดกำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย ซึ่งจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนธ.ค.2562 ส่งผลให้สิ้นปีนี้จะมีโรงไฟฟ้าที่ COD รวมทั้งสิ้น 46 โครงการ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 17 โครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 24 โครงการ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 3 โครงการ โครงการขยะอุตสาหกรรม 1 โครงการ และ โรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล 1 โครงการ มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 2,896 เมกะวัตต์ ทำให้รายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย 15-20%
ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างพิจารณาขยายการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการโรงไฟฟ้าในอีกหลายประเทศทั้งใน เวียดนาม เกาหลีใต้ กัมพูชา ฟิลิปปินส์ กัมพูชา รวมถึงระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนไปสู่เป้าหมายการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565