HoonSmart.com>>ค่ายกสิกรไทยคาดตลาดหุ้นสัปดาห์ที่จะถึง ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,700 จุด ค่าเงินบาทแกว่ง 30.40-30.80 บาท/ดอลลาร์ฯ รอปัจจัยต่างประเทศชี้นำ
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย คาดตลาดหุ้นในสัปดาห์ถัดไป (9-13 ก.ย.) มีแนวรับที่ 1,650 และ 1,640 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,680 และ 1,700 จุด ตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน และ BREXIT ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนส.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ของยูโรโซน ดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคเดือนส.ค. ของจีน รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนส.ค.ของญี่ปุ่น
สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ระดับ 1,670.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.91% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 57,178.33 ล้านบาท ลดลง 5.83% ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai เพิ่มขึ้น 0.40% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 354.12 จุด
ตลาดช่วงต้นสัปดาห์ร่วงลง จากความกังวลต่อปัจจัยต่างประเทศ ก่อนจะดีดตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ หลังสถานการณ์ต่างประเทศคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น อาทิ ฮ่องกงประกาศถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการ รวมถึงสหรัฐฯ และจีนตกลงจะกลับมาเจรจาการค้ากันอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ถูกจำกัดการปรับขึ้นจากแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติ
ทางด้านเงินบาท สัปดาห์ถัดไป ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหว ที่ 30.40-30.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ช่วงต้นสัปดาห์อ่อนค่าสอดคล้องกับค่าเงินหยวนและสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ท่ามกลางความกังวลต่อสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นช่วงกลางสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขายหลังจากดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ สะท้อนภาวะหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ประกอบกับสกุลเงินในภูมิภาคและสินทรัพย์เสี่ยงกลับมาได้รับแรงหนุนจากการที่ตลาดคลายความกังวลต่อสถานการณ์ BREXIT และเหตุการณ์ในฮ่องกงลงบางส่วน และเงินบาทอ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากที่เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด อาทิ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน และดัชนี ISM ภาคบริการเดือนส.ค.
ในวันศุกร์ (6 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 30.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.58 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (30 ส.ค.)
