ช็อคทั้งโลก ! รับมือจันทร์ทมิฬ หุ้นแพนิคช่วงสั้น ร่วงทดสอบ 1,600 จุด

HoonSmart.com>>เซียนมองตลาดจันทร์ทมิฬ !!!! ช็อคทั้งโลก  แพนิคช่วงสั้น ทดสอบ 1,600 จุด ผลกระทบสงครามการค้ารุนแรงขึ้น หลังจากจีน-สหรัฐ แลกกันคนละหมัด ขึ้นภาษีตอบโต้ ดาวโจนส์ร่วงนำ 623 จุด แนะถือเงินสด 50% ลดความเสี่ยง เลี่ยงหุ้นเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก เช่น ส่งออก ปิโตรเคมี   เลือกหุ้นโรงไฟฟ้า ค้าปลีก หลบภัย

สงครามการค้าระหว่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กับ “สี จิ้น ผิง” ประธานาธิบดีจีน เมื่อค่ำวันศุกร์ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ช็อคทั้งโลก กับการปฏิบัติการของจีน ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ  รวมน้ำมันและถั่วเหลือง วงเงิน 75,000 ล้านดอลลาร์ ในอัตรา 5-10% โดยแบ่งออกเป็นระยะ  ซึ่งระยะแรก มีผล 1 ก.ย. ระยะต่อไป 15 ธ.ค. ซึ่งรอบที่สองนี้ จะเก็บภาษีรถยนต์นำเข้า 25% และเก็บภาษีชิ้นส่วนนำเข้า ในอัตรา 5%

ประธานาธิบดีทรัมป์  ทวีตตอบโต้ทันที  จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน วงเงิน 250,000 ดอลลาร์ เพิ่มจาก 25% เป็น 30% ในวันที่ 1 ตุลาคม ส่วนภาษีที่จะเก็บจากสินค้าวงเงิน 300,000 ล้านดอลลาร์  มีผล วันที่ 1 ก.ย.นี้ จะเพิ่มเป็น 15% จากเดิม 10% และจะสั่งให้บริษัทสหรัฐรีบถอนตัวออกจากจีนโดยทันที เพื่อกลับมาผลิตสินค้าในสหรัฐ

ผลก็คือ ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาด 23 ส.ค. ร่วง 623 จุด หรือ 2.4 %  ปิดที่ 25,628.90 จุด กดดันราคาน้ำมันดิบในตลาด WTI ปิดที่  54.17 ดอลลาร์/บาร์เรล  รูดลง 1.18 ดอลลาร์ หรือ 2.13% ขณะเดียวกันเงินเข้าไปหลบภัยลงทุนในทอง ส่งผลให้ราคาสัญญาซื้อขายทองล่วงหน้า ปิดที่  1,537.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์  พุ่งขึ้น 29.10 ดอลลาร์ หรือ 1.93% ส่งผลให้ราคาขายในประเทศ เพิ่มขึ้นบาทละ 250 บาท  ทองคำแท่งรับซื้อ 21,950  บาท และขายออก  22,050  บาท

สำหรับตลาดหุ้นไทยวันจันทร์ 26 ส.ค. นี้ นักวิเคราะห์มองในทิศทางเดียวกันว่า จะอยู่ในสถานการณ์ตลาดหุ้นโลกแพนิค จากผลกระทบดังกล่าว

ประกิต สิริวัฒนเกตุ

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม  เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์  กล่าวว่า การตอบโต้มาตรการภาษีรอบนี้ เปิดเพดานการตอบโต้ภาษีซึ่งกันและกันของสหรัฐและจีน ซึ่งสหรัฐเก็บภาษีจากจีน 25% รุนแรงได้มากกว่านี้ หรือแย่สุดคือ การระงับสินค้านำเข้าจากจีน กดดันนักลงทุนและตลาดหุ้นทั่วโลก

สำหรับผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยวันจันทร์ 26 ส.ค.นี้ จะเกิดการแพนิคของตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ เป็นการแพนิค ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งทำให้ดัชนี SET ต่ำกว่า 1,600 จุด  เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น

ผู้อำนวยการอาวุโส แนะนำนักลงทุนลดพอร์ตลงทุนลดความเสี่ยง และ ถือเงินสด 50%  เนื่องจาก สงครามการค้ายังอยู่กับตลาดหุ้นอีกนาน ถือหุ้นอย่างเดียวไม่ได้

“ตลาดหุ้นไทย สัปดาห์นี้  จะวนกลับมา 1,600 จุด หรือต่ำกว่า 1,600 จุด  เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ ผมเชื่อว่า เป็นการแพนิคสั้นๆ เท่านั้น  และมองว่าเดือน ก.ย. มีชอร์ตที่ทำให้ตลาดฟื้น เช่น การประชุมธนาคารกลางหลายประเทศในยุโรป ใช้นโยบายผ่อนคลาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และแนวโน้มเฟด ลดดอกเบี้ย เงินหยวนเทียบสหรัฐ อ่อนค่าแรง เงินยูโรอ่อน ส่วนเงินบาทจะแข็งมาก สุดท้ายแล้วเงินจะไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ ตลาดหุ้นไทย ได้รับอานิสงส์นี้ การเตรียมเงินสดไว้บ้าง เพื่อรอซื้อหุ้น เช่นโรงไฟฟ้า สื่อสาร ที่มีความแข็งแกร่งในตัวเอง” นายประกิต กล่าว

นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันจันทร์นี้ มีโอกาสร่วง 1.5-2% จาก 1,646 จุด ลงมาที่แนวร้บ 1,620 จุด และทดสอบ 1,600 จุด อีกครั้ง จากผลกระทบสงครามการค้า และการปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้นบริษัทจดทะเบียน (EPS) ลงมา 3% จาก 105  บาท เป็น 101  บาทแต่พี/อี ตลาดยังอยู่ระดับสูงกว่า 16 เท่า กรณีที่สงครามการค้าไม่จบ มีความเสี่ยงที่นักวิเคราะห์จะปรับลดประมาณการลงอีก

“การตอบโต้คนละหมัดของสหรัฐและจีน ทำให้ความกังวลเพิ่มขึ้น มีโอกาสมากที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย อีกทั้งงานสัมมนาใหญ่ประจำปีแจ๊คสัน โฮล นั้น ประธานเฟด ไม่พูดชัดเจนถึงการลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง แต่ไม่ปิดกั้นนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  ความกังวลนี้ จะทำให้ตลาดหุ้นวันจันทร์ ปรับตัวลงอย่างน้อย 1.5-2% หรือราว 25 จุด  แนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก เช่น ส่งออกและกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมี ขณะนี้เป็นขาลง ปริมาณปิโตรเคมีโลกมีมากกว่าความต้องการ   และหลบภัยในหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบกับตลาด เช่น หุ้นโรงไฟฟ้า หรือค้าปลีก” ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์ เคจีไอ กล่าว