HoonSmart.com>>” อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์” นำทีมพี่สาวและพี่ชาย ขายหุ้น TKN 48.3 ล้านหุ้น ราคา 10 บาท/หุ้น ให้ พันธมิตรที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศต้องการลงทุนด้วย ยันกลุ่มครอบครัวยังคงกอดหุ้นใหญ่ที่สุด 58%
วันที่ 20 ส.ค. 2562 มีการซื้อขายรายการใหญ่ (บิ๊กล็อต) หุ้นบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) จำนวน 48.3 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 10 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 483 ล้านบาท โดยครอบครัวพีระเดชาพันธ์ ได้ขายหุ้นจำนวน 3.5% ให้กับพันธมิตรทางธุรกิจรายหนึ่ง เพื่อขยายตลาดเป็นตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศและมีความประสงค์เข้าร่วมลงทุนในบริษัท ทั้งนี้ครอบครัวพีระเดชาพันธ์ยังคงถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนกว่า 58% ของทุนเรียกชำระแล้ว
สำหรับหุ้นที่ขายเป็นของ นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ จำนวน 33,810,000 หุ้น พี่สาวและพี่ชาย คือน.ส.อรพัทธ์ และนายณัชชัชพงศ์ ขายออกเท่ากันคนละ 7,245,000 หุ้น
นายอิทธิพัทธ์ หรือต๊อบ มีการขายหุ้น TKN บิ๊กล็อตออกมาหลายครั้ง ภายหลังจากนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2558 ในราคาไอพีโอ 4 บาท/หุ้น ได้เริ่มขายทำกำไรออกมาชัดเจนตั้งแต่ปลายปี 2559 เนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นสูงมากกว่า 25 บาท เมื่อเดือนพ.ย.ขาย 35 ล้านหุ้น จำนวน 2.54% ราคาหุ้นละ 25.50 บาท มูลค่า 892.50 ล้านบาท คงเหลือ 65.2% โดยให้เหตุผลเพื่อเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นในตลาดหรือ free float และในเดือนธ.ค. ขายอีก 25 ล้านหุ้น ต่อมาในวันที่ 21 ก.พ. 2560 ขายเพิ่ม 17.50 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 24.25 บาท รับเงิน 600 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 ต่อเนื่องถึง 2562 ราคาหุ้น TKN ปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว ต่ำกว่า 8 บาท นาย อิทธิพัทธ์ ได้ใช้เงินกว่า 105 ล้านบาท ทยอยซื้อหุ้นจำนวน 12 ล้านหุ้น หลังจากกระแสกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวจีนและการส่งออกไปจีนลดฮวบ โดยบริษัท เถ้าแก่น้อยฯ มีการปรับกลยุทธ์ออกสินค้าใหม่ และขยายตลาดไปไกลถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีพอสมควร ส่งผลให้การดำเนินงานฟื้นตัว โดยไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท รูดลง 35.94% และครึ่งปีนี้กำไรทั้งสิ้น 179 ล้านบาท หายไป 41% จากระยะเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 305 ล้านบาท
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.11 บาท ราคาหุ้นปิดที่ 10.50 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 1.04%