HoonSmart.com>>“เจ เวนเจอร์ส” ลั่น แผนพัฒนาระบบ JFIN DDLP แล้วเสร็จก่อนกำหนด โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาสนับสนุน “ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์” ซีอีโอ เผย ความสำเร็จนี้เป็นแค่ก้าวแรก พร้อมเปิดตัวสินเชื่อรูปแบบใหม่ B2P (Business to Person) ในชื่อ “J Loan Lite” และฟังก์ชั่น “J Score” ระบบพิจารณาอนุมัติการปล่อยสินเชื่อ เป็นครั้งแรกที่รวมเอา ข้อมูลยุค 4.0 มาวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่ออนุมัติการปล่อยสินเชื่อ ค่าธรรมเนียมการกู้ 30 บาท
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส หรือ JVC ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ และแอปพลิเคชันทางด้านฟินเทค (Fintech) และลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) เปิดเผยว่า แผนการพัฒนาระบบสินเชื่อแบบดิจิทัลที่ไม่มีตัวกลาง JFIN DDLP (Decentralized Digital Lending Platform) บนเทคโนโลยีบล็อกเชน มาตรฐานโลก แล้วเสร็จและพร้อมใช้งานแล้ววันนี้ พร้อมปรับโฉม พัฒนาแพลตฟอร์ม “ป๋า มาร์เก็ตเพลส” (PAH Marketplace) ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น รองรับผลิตภัณฑ์การกู้ยืมในรูปแบบฟินเทคหลายประเภท ทั้งจาก JVC และพันธมิตร
พร้อมทั้งเปิดตัวสินเชื่อรูปแบบใหม่ ในชื่อ “J Loan Lite” เป็นสินเชื่อรูปแบบ B2P หรือ Business to Person โดย JVC ในฐานะผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม ร่วมมือกับ บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด ในฐานะผู้ให้สินเชื่อ พิจารณาและอนุมัติการปล่อยสินเชื่อให้แก่บุคคลทั่วไป ผ่านระบบออนไลน์ และไม่ผ่านตัวกลางด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 15% ต่อปี และค่าธรรมเนียมการกู้ที่ต้องจ่ายให้แพลตฟอร์ม 30 บาท มีจุดเด่นในเรื่องความน่าเชื่อถือ โปร่งใส เป็นแพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัย เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า
สำหรับกลไกการทำงาน ระบบหลังบ้านของ “J Loan Lite” มี 4 ฟังก์ชั่นสำคัญ ได้แก่ ลำดับแรกการยืนยันตัวตนที่ได้มาตรฐาน ลำดับต่อมา การพิจารณาวงเงินและอนุมัติสินเชื่อ ผ่านฟังก์ชั่น “J Score” ที่บริษัทฯ เป็นผู้พัฒนา และเป็นหัวใจหลักในการนำระบบ Credit Scoring ข้อมูลมาตรฐานจากกลุ่มบริษัทเจมาร์ท และการใช้ Social Scoring ข้อมูลในโลกอินเทอร์เน็ต ผนวกกับข้อมูลพฤติกรรมตามหลักจิตวิทยา มาวิเคราะห์ เพื่อวัดหา “คนดี” 120เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่นำเอา Social Scoring เข้ามาใช้ในการอนุมัติการขอสินเชื่ออย่างเป็นรูปธรรม เมื่ออนุมัติสินเชื่อผ่านแล้ว จะโอนเงินผ่านดิจิทัล (Digital Payment) และมีการเก็บข้อมูลบนเทคโนโลยีบล็อกเชน
“จากสถิติประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไทยไม่สามารถเข้าถึงระบบเงินกู้ผ่านสถาบันการเงินได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่ เจ เวนเจอร์ส เชื่อว่า กลุ่มคนเหล่านั้นมีศักยภาพในการกู้ยืม และมีความสามารถในการผ่อนชำระ ซึ่งเราเรียกคนกลุ่มนี้ว่า คนดี โดยเราได้นำข้อมูลในโลก 4.0 นำมารวบรวมเพื่อทำการวิเคราะห์ โดยใช้เทคโนโลยี เพื่อให้เป็น “คะแนนคนดี” เข้ากับระบบ Credit Scoring ตามมาตรฐาน ในชื่อ “J Score” เพื่อให้กลุ่มคนดังกล่าวสามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อผ่านแพลตฟอร์มป๋า มาร์เก็ตเพลสของเรา”
สำหรับ แผนการพัฒนาระบบสินเชื่อแบบดิจิทัลที่ไม่มีตัวกลาง JFIN พัฒนาโดย Blockchain มาตรฐานโลก ด้วย “Corda R3” ร่วมกับพาร์ทเนอร์ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนในหลายหน่วยงาน ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานที่จะให้ผู้ถือ JFIN ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกู้ยืม (Stake Reward) จะทำให้ผู้ถือโทเคนดิจิทัล JFIN สามารถนำเหรียญมาฝากเป็น Stake และได้ผลตอบแทนจากส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมในการใช้งานแพลตฟอร์มป๋าได้
“JVC ออกโทเคนดิจิทัล JFIN ขึ้นมา นำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาพัฒนาระบบ DDLP ได้แล้วเสร็จตามโรดแมปที่วางไว้ โดยก่อนหน้านี้ ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มต่างๆ มากมาย ทั้ง ป๋า.com และ JFIN Cryptocurrency Wallet แรกของประเทศ จากนั้น เราได้นำโทเคนมาใช้งานได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อปล่อยกู้ในรูปแบบฟินเทค โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จ ในความมุ่งมั่นนำโทเคนดิจิทัลมาใช้ได้จริงในเชิงเศรษฐกิจ (Tokenomics) และเตรียมพร้อมโลกแห่งเทคโนโลยีในอนาคต” นายธนวัฒน์ กล่าว