โดย…สาธิต บวรสันติสุทธิ์,CFP
วันก่อนอ่านเจอบทความจาก https://thaipublica.org/2019/07/varakorn-298/ เรื่อง “ทฤษฎีแรดเทา” เป็นทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ที่เปรียบเปรยความเสี่ยงโดยใช้แรดสีเทา ว่าแรดปกติมีสองสีคือแรดขาว (เผือก) และแรดดำ แต่ในความเป็นจริงแล้วแรดทั้งหมดดูคล้ายกันเป็นสีเทา ซึ่ง เปรียบเสมือนการเกิดขึ้นของเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวง หรือโดยมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นสูงมาก เพียงแต่เราแยกแยะไม่ออก มองไม่เห็นอาการหรือสัญญาณ หรือเห็นแต่คิดว่าไม่สำคัญ
ตัวอย่างหนึ่งของแรดเทา ก็คือ หากจะถามว่า อะไร คือ สิ่งที่คนเป็นพ่อเป็นแม่รักมากที่สุด คำตอบแน่นอน คือ ลูก เรามักจะอ่านพบเรื่องราวของคนเป็นพ่อแม่ที่ยอมเหนื่อยยาก ประหยัดทุกวิถีทางเพื่ออนาคตของลูก
อย่างเช่นที่ผมเคยเจอกับตัวเองก็คือ พนักงานขับรถของบริษัท ซึ่งมีเงินเดือนไม่กี่หมื่น แต่ส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติที่ค่าเทอมเป็นแสน ถ้ามองในสายตาของนักวางแผนการเงิน เราก็คงมองว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะอนาคตยังมีเรื่องจำเป็นต้องใช้เงินอีกมาก แต่หากมองในด้านความรักลูก เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และเรื่องนี้ ก็เป็นตัวอย่างที่พิสูจน์คำพูดที่ว่า “ความรักชนะทุกอย่าง” จริง เพราะพนักงานขับรถท่านนี้ก็สามารถส่งลูกเรียนจนจบได้จริงๆ
ด้วยความรักลูกของพ่อแม่นี้ จึงทำให้คนเป็นพ่อแม่สรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก แต่ก็มักจะมาพร้อมราคาที่แพงมากด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสินค้าสำหรับเด็กเล็กที่ยิ่งต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี ผลิตจากวัสดุที่ไม่เป็นอันตราย สินค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าจากต่างประเทศ แต่ที่ซ้ำเติมค่าใช้จ่ายพ่อแม่ นอกจากราคาที่แพงก็คือ อายุการใช้งานสั้น ไม่ใช่เพราะของเสียเร็ว แต่เป็นเพราะเด็กโตเร็ว ทำให้ของราคาแพงที่ซื้อมา ใช้ยังไม่ทันไร ใช้ไม่ได้แล้ว
ตัวอย่างเช่น เครื่องปั๊มนม เสื้อผ้า รองเท้า รถเข็น ฯลฯ กลายเป็นปัญหาของพ่อแม่ที่ซื้อของเหล่านี้มา ไม่รู้จะเก็บไว้ที่ไหน จะบริจาค หรือ ทิ้งก็เสียดายเงินที่จ่ายไป ขณะที่พ่อแม่หลายคนที่อยากได้ของดีๆให้ลูก แต่ไม่มีความสามารถมากพอ ก็จำเป็นต้องใช้ของที่มีคุณภาพพอประมาณ หรือต่ำกว่าที่ต้องการ สิ่งนี้คือ ปัญหาที่คนเป็นพ่อแม่พบและจำใจยอมรับกันแทบทุกคน
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เพื่อต้องการให้เห็นถึง pain point หรือปัญหาอย่างหนึ่งที่เราพบประจำ หากใครสังเกตออกและเสนอแนวทางแก้ปัญหาได้ คนนั้นก็จะประสบความสำเร็จ ตัวอย่างหนึ่งของคนที่เสนอแนวทางแก้ปัญหานี้ ก็คือ https://mombiestreet.com/ เว็บไซค์ที่เป็นตลาดสำหรับสินค้าแม่และเด็กคุณภาพพรีเมี่ยม ทั้ง สินค้าใหม่และสินค้ามือสองที่เป็นแบรนด์ชั้นนำ เป็ฯ แหล่งซื้อขายสินค้าแม่และเด็กที่ใหญ่ที่สุดกว่า 10,000 ชิ้นโดยให้พ่อแม่ที่มีสินค้ามาเสนอขายในเว็บ เพื่อพ่อแม่ที่ต้องการสินค้ามาเลือกซื้อได้ โดยทาง mombiestreet ทราบถึงความกังวลของคนเป็นพ่อแม่ดี ว่าต้องการของแบรนด์เนมแท้ คุณภาพดีเท่านั้น
ดังนั้นทาง mombiestreet จึงการันตีของทุกชิ้นแท้ 100% การันตีสินค้าคุณภาพดี 80% ขึ้นไป (Mombie Certified Mall) การันตีในความสะอาดของทุกชิ้น ระบบการซื้อขายที่ปลอดภัยและ หากผู้ซื้อไม่พอใจสามารถคืนสินค้าได้ภายใน 5 วัน ในราคาที่คุณแม่ยิ้มได้โดยราคาซื้อขาย หลายชิ้นจะถูกกว่าสินค้าใหม่เกินกว่า 50% แต่ปัญหาอย่างหนึ่งของคนซื้อของ online ก็คือ ของที่ซื้อมาไม่ตรงกับความต้องการ ดังนั้นเพื่อให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าของที่จะซื้อ คือ สินค้าที่ตนอยากได้จริงๆ หลายเว็บจะมีรูปให้ดู ทาง mombiestreet นอกจากมีรูปสินค้าให้ดูแล้ว ยังมี VDO สินค้าให้ดูก่อนสั่งซื้อ เพื่อให้ผู้ซื้อได้พิจารณาจนมั่นใจว่าใช่ของที่ตนต้องการจริงๆ
และเพราะมองเห็นและเสนอการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์นี้ ทำให้ mombiestreet ผ่านการคัดเลือก TED Fund กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปี 2561 ที่ผ่านมา
ใครที่ต้องการศึกษากรณีศึกษาการทำธุรกิจ online ก็ลองเข้าไปดูได้นะส่วนคนที่เป็นพ่อแม่ลูกอ่อน ก็ลองเข้าไปดู อาจได้ของคุณภาพดีในราคาถูกใจเพื่อลูกสุดที่รักก็เป็นได้