หุ้นไทยร่วง 0.88% ดีกว่าญี่ปุ่น-ฮ่องกง นักลงทุนตปท.ขายกว่า 3 พันล.

HoonSmart.com>>นักลงทุนพร้อมใจขายตั้งแต่เปิดตลาด กดหุ้นไทยร่วงตามต่างประเทศ ทรัมป์เปิดศึกใหญ่สงครามการค้ากับจีน ผสมแรงระเบิดกลางกรุงเทพ ดัชนีปิดลดลง 15 จุด แรงขายพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจเกี่ยวข้องท่องเที่ยว  ต่างชาติขาย 3 พันล้านบาท รายย่อยเก็บเจ้าเดียว 5,781 ล้านบาท 

ตลาดหุ้นแดงเถือกทั่วโลก 2 ส.ค. 2562 ดัชนีหุ้นไทย ปิดที่ 1,684.71 จุด ลดลง 15.04 จุด หรือ 0.88% มูลค่าการซื้อขายรวม 82,045 ล้านบาท ตลาดฟื้นตัวจากระหว่างวันร่วงลงไปต่ำสุดที่ 1,671.97 จุด ทรุดลง 27.78 จุด หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทรุด 280 จุดหรือ 1.05% ตลาดหุ้นโตเกียวและฮ่องกง ทรุดหนักกว่า 2%

มาร์เก็ตติงกล่าวว่า ตลาดหุ้นทรุดตัวลงแรงทั่วโลก หลังจาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศว่าเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยจะเริ่มเก็บวันที่ 1 ก.ย.นี้ ซึ่งไม่รวมสินค้าวงเงิน 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯซึ่งถูกเรียกเก็บภาษี 25% ก่อนหน้านี้ จุดชนวนสงครามการค้าลุกลาม ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ตัดกำลังซื้อพลังงาน ปิโตรเคมี และอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ราคาหุ้นเหล่านี้ปรับตัวลงแรง รวมถึงการขายหุ้นที่กำไรไตรมาส 2 ออกมาต่ำกว่าคาด รวมถึงประมาณการว่าจะออกมาไม่ดี

” หุ้น BBL ยังคงลดลงต่อ หลังจากผิดหวังกำไรไตรมาส 2 ขณะที่นักลงทุนถือโอกาสเข้าซื้อหุ้น KBANK และ SCB ที่ราคาลงไปแรงเกินไป แต่มีการขายหุ้นพลังงาน กดดันให้ตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวลงแรง แนวโน้มในสัปดาห์หน้า ยังมีโอกาสปรับตัวลงต่อเนื่อง หากไม่มีข่าวดีใหม่ๆออกมา ส่วนเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดกลางกรุงเทพ ส่งผลต่อเนื่องถึงธุรกิจท่องเที่ยว และมีแรงขายหุ้น AOT” แหล่งข่าวกล่าว

ด้านหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ PTT ลดลง 1 บาทปิดที่ 46 บาท AOT ลดลง 1 บาทปิดที่ 7075 บาท PTTGC ลดลง 2.50 บาท ปิดที่ 57.75 บาท PTTEP ลดลง 3.50 บาท ปิดที่ 131.50 บาท CPALL ปิดที่ 86.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน

สำหรับการซื้อขายหุ้นรายกลุ่ม นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ  3,632.21 ล้านบาท สถาบันขายด้วย 1,598.60  ล้านบาท  พอร์ตบล.ขาย 550 ล้านบาท ส่วนรายย่อยซื้อทั้งสิ้น 5,781.53 ล้านบาท