PTTEP โกยกำไรครึ่งปี 2.6 หมื่นลบ. ใจดีปันผล 2.25 บาท แจก 1.67%

HoonSmart.com>>ปตท.สผ. กำไรก้าวกระโดดตามคาด ไตรมาส 2/2562 กวาด 13,684 ล้านบาท  พุ่งขึ้น 281% ครึ่งปีแรก โต 54% อานิสงส์เงินบาทแข็งค่า  ความสำเร็จการซื้อกิจการตามแผนกลยุทธ์  หนุนปริมาณขายโตตามเป้า มั่นใจทั้งปีนี้  345,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ผนวกกับราคาขายผลิตภัณฑ์สูงขึ้น  จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 2.25 บาทต่อหุ้น สูงกว่ากลางปีก่อนให้ 1.75 บาท 

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือปตท.สผ. (PTTEP) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2562 มีกำไรสุทธิ 13,684 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 10,094 ล้านบาท อัตราขยายตัว 281% จากที่มีกำไรสุทธิเพียง 3,590 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน และรวมผลงาน 6 เดือนปีนี้ กำไรสุทธิทั้งสิ้น 26,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,193 ล้านบาท คิดเป็น 54.17% จากระยะเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 16,970 ล้านบาท

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้รวมในครึ่งปีแรก จำนวน 3,001 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่า 94,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จาก 2,562 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 81,343 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2561 ปัจจัยหลักมาจากปริมาณขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 326,971 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จาก 297,999 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ซึ่งเป็นผลจากการเข้าซื้อแหล่งบงกชเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 47.26 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ จาก 45.51 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) อยู่ที่ 30.24 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ซึ่งอยู่ในระดับที่บริษัทคาดการณ์ไว้

“กำไรไตรมาส 2 พุ่งขึ้น 281% หลักๆ มาจากปัจจัยบวกเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้มีกำไรจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ รวม 44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พลิกจากช่วงเดียวกันปีก่อน มีการรับรู้ขาดทุนจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติรวม 223 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่เกิดจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง”

ด้านคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 2.25 บาท กำหนดวันที่ผู้ถือหุ้นมีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 8 ส.ค. และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 ส.ค. 2562

ทั้งนี้เงินปันผลหุ้นละ 2.25 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 1.67% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิด 134 บาท ณ วันที่ 26 ก.ค. 2562 ขณะที่กลางปีก่อนจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 1.75 บาท เท่านั้น ปัจจุบันนักวิเคราะห์ 18 ราย ให้มูลค่าเหมาะสมเฉลี่ย 152 บาทต่อหุ้น  ราคากลาง 153.20 บาท ส่วนราคาสูงสุดให้สูงถึง 175 บาท และต่ำสุดอยู่ที่ 130 บาท

ส่วนความคืบหน้าการลงทุน เปลี่ยนผ่านสิทธิการดำเนินการ เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ปตท.สผ. ได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการเมอร์ฟี่ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น ในประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริษัทรับรู้ปริมาณขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 48,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปริมาณการขายเฉลี่ยเป็นไปตามเป้าหมายของปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 345,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

“ ปตท.สผ. จะให้ความสำคัญกับเปลี่ยนผ่านสิทธิการดำเนินการ ให้เป็นไปอย่างราบรื่น  การเข้าซื้อกิจการของเมอร์ฟี่ฯ นั้น บริษัทได้ตั้งทีมงานขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อดูแลเกี่ยวกับการโอนการดำเนินงาน สำหรับ แปลง G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และแปลง G2/61 (แหล่งบงกช) ซึ่ง ปตท.สผ. ชนะการประมูลนั้น อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและผู้ดำเนินการปัจจุบันของแปลง G1/61 เรื่องการประสานงานเพื่อเข้าพื้นที่ภายในปีนี้ เพื่อให้ ปตท.สผ. สามารถวางแผนการลงทุนล่วงหน้า เช่น การติดตั้งแท่นและหลุมเจาะที่จะใช้ในปี 2565 เมื่อบริษัทเข้าเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อให้สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติเพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานในประเทศได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่อง” นายพงศธร กล่าว