HoonSmart.com>> เพซ ดีเวลลอปเมนท์ฯ เผย “ดีน แอนด์ เดลูก้า” เดินหน้าปรับโครงสร้างแยกบริษัทเป็นอเมริกาและเอเชีย พร้อมตั้งเป้าหยุดขาดทุนสาขาในอเมริกาสิ้นปีนี้ ส่วนตลาดเอเชียโตแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าเปิดสาขาในไทยอีก 5 สาขาปีนี้
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอร์เรชั่น (PACE) เปิดเผยว่า ปัจจุบันดีน แอนด์ เดลูก้า อิงค์ ซึ่งบริหารร้าน Dean & Deluca สาขาในอเมริกา ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อให้เข้ากับภาวะตลาดฟู้ดรีเทลที่ท้าทายและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในอเมริกา โดยขณะอยู่ระหว่างการปรับขนาดธุรกิจให้เหมาะสม (rightsized) ควบคุมค่าใช้จ่าย และควบรวมการดำเนินงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในสาขาที่ไม่สามารถทำยอดขายและกำไรได้ตามเป้า โดยตั้งเป้าหยุดขาดทุนในสิ้นปี
นายสรพจน์ กล่าวว่า สภาวะตลาดรีเทลทั่วโลกรวมถึงอเมริกาในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ตลาด Grocery Store ในอเมริกาเองก็มีการขายอาหาร Prepared Foods หรืออาหารพร้อมทานมากขึ้นและมีพื้นที่ให้นั่งทาน ประกอบกับผู้บริโภคชาวอเมริกันซื้อสินค้า ของใช้ต่างๆ และอาหารออนไลน์มากขึ้นถึง 30% ซึ่งทำให้ร้านรีเทลต่างๆ ที่มีหน้าร้านหรือ Brick and Mortar Stores จะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ เพื่อให้ทันกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
“บริษัทจึงอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจและการดำเนินงานของดีนแอนด์ เดลูก้า อเมริกาครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ ลดต้นทุน ให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ รวมถึงแผนการสร้างแบรนด์และมุ่งเน้นเปิด Franchise ในอเมริกา และทำ online ให้มากขึ้น” นายสรพจน์ กล่าว
ปัจจุบันดีน แอนด์ เดลูก้า อเมริกา มี 5 สาขา ส่วนดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการร้านสาขาในประเทศไทย และยังดำเนินการให้ลิขสิทธิ์แบรนด์ สิทธิแฟรนไชส์ รวมถึงสิทธิการขายสินค้าในประเทศอื่น ๆ ในเอเชียนั้น ยังสามารถทำยอดขายและสร้างผลตอบแทนให้บริษัทได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันดีน แอนด์ เดลูก้า (ประเทศไทย) มีสาขาทั้งหมด 11 สาขา และแผนจะเปิดสาขาใหม่อีก 5 สาขาภายในปี 62 โดยแบ่งเป็น 2 สาขาที่ภูเก็ต และอีก 3 สาขาในกรุงเทพฯ
นายสรพจน์ กล่าวว่า ดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทศไทย) สามารถทำยอดขายและสร้างผลตอบแทนได้ดี ในช่วงเดือนมิ.ย.2561-พ.ค.2562 หรือ1 ปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 523 ล้านบาท (EBITDA 79.8 ล้านบาท) รายได้จากต่างประเทศ 106 ล้านบาท (EBITDA 35.43 ล้านบาท) รวมทั้งสิ้น 630 ล้านบาท (EBITDA 115.23 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560-2561
ในส่วนของธุรกิจแฟรนไชส์ ดีน แอนด์ เดลูก้า ยังคงเดินหน้าให้แฟรนไชส์แก่บริษัทที่มีศักยภาพและมีเครือข่ายในเมืองสำคัญทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และในส่วนที่ได้เซ็นสัญญาให้สิทธิแฟรนไชส์ไปแล้ว เช่น กับทางลากาแดร์ ทราเวล รีเทล ก็มีความคืบหน้าเช่นเดียวกัน
“แผนธุรกิจต่อไปของดีน แอนด์ เดลูก้า คือ การขยายแบรนด์และต่อยอดความสำเร็จของ ดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทสไทย) รวมถึงการเดินหน้าให้ธุรกิจแฟรนไชส์ ในเอเชียและทั่วโลกให้มั่นคงและมีประสิทธิภาพ และเดินหน้าปรับขนาดธุรกิจในอเมริกาให้พอเหมาะ (rightsized) เพื่อต่อสู้กับความท้าทาย ตัดค่าใช้จ่าย และหยุดการขาดทุนให้สำเร็จ” นายสรพจน์ กล่าว