HoonSmart.com>> กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน JASIF ชงผู้ถือหน่วยอนุมัติแผนลงทุนเพิ่ม ซื้อทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงเพิ่มไม่เกิน 700,000 คอร์กิโลเมตร มูลค่าไม่เกิน 38,000 ล้านบาท พร้อมเพิ่มทุนไม่เกิน 24,629 ล้านบาทและกู้เงินไม่เกิน 18,160 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ได้พิจารณาเกี่ยวกับการลงทุนของกองทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานประเภททรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง (Optical Fiber Cable) เพิ่มเติมครั้งที่ 1 จำนวนไม่เกิน 700,000 คอร์กิโลเมตร โดยจะลงทุนในกรรมสิทธิ์โดยซื้อทรัพย์สินส่วนเพิ่มจากบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) ราคาไม่เกิน 38,000 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินส่วนเพิ่ม)
กองทุนพิจารณาราคา ประกอบกับราคาประเมินของผู้ประเมินราคาอิสระ 2 ราย ได้แก่ บริษัท อเมริกัน แอ๊พเพรซัล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ซี.ไอ.ที.แอพเพรซัล จำกัด ทั้งนี้ มูลค่าสุดท้ายที่กองทุนจะเข้าซื้อเพื่อลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่มจะไม่สูงกว่าราคาประเมินที่ต่ำที่สุดของผู้ประเมินราคาอิสระ 2 รายดังกล่าว
สำหรับแหล่งเงินทุนที่จะใช้ในการลงทุนทรัพย์สินส่วนเพิ่ม เบื้องต้นคาดว่าจะมาจากการเพิ่มเงินทุนจดทะเบียนของกองทุน ในจำนวนรวมไม่เกิน 24,629 ล้านบาท จากเดิมทุนจดทะเบียน 54,183.8 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 9.8516 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนจำนวนไม่เกิน 78,812.8 ล้านบาท โดยเสนอขายหน่วนลงทุนใหม่ไม่เกิน 2,500 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนการถือหน่วยลงทุน ๊ วันปิดสมุดทะเบียน 24 ก.ค.2562
นอกจากนี้กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในประเทศไทยเป็นจำนวนไม่เกิน 15,500 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนส่วนหนึ่งสำหรับซื้อกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินส่วนเพิ่ม
นอกจากนั้นกองทุนอาจกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในประเทศไทยจำนวนไม่เกิน 2,660 ล้านบาท เพื่อใช้ในการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากการซื้อกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินส่วนเพิ่ม รวมเป็นเงินกู้ไม่เกิน 18,160 ล้านบาท
ภายหลังจากกองทุนได้ซื้อทรัพย์สินส่วนเพิ่มแล้ว กองทุนจะนำทรัพย์สินส่วนเพิ่มจำนวนร้อยละ 80 ของทรัพย์สินส่วนเพิ่มทั้งหมดที่ได้รับมอบจาก TTTBB ซึ่งรวมกันไม่เกิน 560,000 คอร์กิโลเมตร ออกให้ TTTBB เช่าในอัตราค่าเช่าเริ่มต้นที่ 433.21 บาท ต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) (ภายใต้สมมติฐานว่าการเข้าลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่มจะแล้วเสร็จภายในปี 2562)
สำหรับทรัพย์สินส่วนเพิ่มจำนวนร้อยละ 20 ของทรัพย์สินส่วนเพิ่ม ซึ่งรวมกันไม่เกิน 140,000 คอร์กิโลเมตรนั้น จะนำออกให้ TTTBB เช่า ในระหว่างที่กองทุนไม่ได้ให้บุคคลอื่นเช่า เพื่อเป็นการประกันรายได้ค่าเช่าให้แก่กองทุน ในอัตราค่าเช่าเริ่มต้นที่ 764.48 บาท ต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
อย่างไรก็ดี การเข้าลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่มและข้อตกลงสุดท้ายที่กองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินส่วนเพิ่มและสัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองสัญญาระหว่างกองทุนกับคู่สัญญาแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของกองทุน ซึ่งเน้นการลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานซึ่งมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนเพื่อเป็นรายได้ให้แก่กองทุน ประกอบกับแนวโน้มและโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ซึ่งการลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่มดังกล่าวน่าจะทำให้กองทุนสามารถจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ในระยะยาว โดยการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้จะเพิ่มรายได้และผลตอบแทนการลงทุน รวมถึงมูลค่าทรัพย์สินให้กับกองทุน จะส่งผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลประโยชน์ตอบแทนในระยะยาวเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ การเข้าลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่มจะทำให้ประมาณการเงินปันส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยลงทุนของกองทุน (Cash Distribution Per Unit หรือ DPU) ภายหลังการเข้าลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่ม ไม่ต่ำไปกว่าประมาณการเงินปันส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยลงทุนของกองทุน ในกรณีที่กองทุนมิได้เข้าลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่ม ที่จัดทำโดยบริษัทจัดการ และตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาตสำหรับช่วงเวลาประมาณการสำหรับงวด 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 และสำหรับงวด 12 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งบริษัทจัดการจะได้นำเสนอต่อผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป
บริษัทจัดการกำหนดจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนครั้งที่ 1/2562 ในวันที่ 23 สิงหาคม 2562
ด้านราคา JASIF ปิดตลาดเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2562 อยู่ที่ 11.30 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง