HoonSmart.com>> บลจ.กรุงไทย โชว์ผลงานบริหารทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทย กองทุน KT-TRIG1 ผลตอบแทนตามเป้าหมาย 5% ภายใน 5 สัปดาห์ ชี้จับจังหวะตลาด-เลือกหุ้นลงทุน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย หรือ KTAM เปิดเผยว่า บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายผลตอบแทนที่ 5% ในการบริหารกองทุนเปิดกรุงไทย ทริกเกอร์ ฟันด์ 1 (KT-TRIG1) ได้ภายในระยะเวลาประมาณ 5 สัปดาห์ โดยจะจ่ายเงินคืนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ (KTSS) ในวันที่ 5 ก.ค.2562
ทั้งนี้ กองทุน KT-TRIG1 มีนโยบายลงทุนลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ เงินฝาก ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนได้ในสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อให้เหมาะสม กับสภาวะการณ์ในแต่ละขณะ
“บริษัทมีการจับจังหวะในการลงทุน โดยเห็นว่าในช่วงครึ่งหลังของเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) มีการปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,620 จุด จากปัจจัยภายนอกประเทศได้แก่ ความกังวลว่าเศรษฐกิจโลก การค้า การลงทุน จะชะลอตัวลงจากภาวะความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ส่งผลให้ส่วนต่างของระดับดัชนีฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว กับระดับดัชนี ที่ควรจะเป็นตามปัจจัยพื้นฐานที่ 1,720 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 6% ซึ่งเป็นดัชนีเป้าหมายของ KTAM ในปีนี้
ปัจจัยสนับสนุนจากสภาพคล่องในตลาดการเงินที่ยังมีอยู่สูง อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ การบริโภคและการลงทุนภายในประเทศที่น่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้นผ่านนโยบายกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นได้ทันทีภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
บริษัทจึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีในการจัดตั้งกองทุนประเภท Trigger Fund ที่มีการกำหนดเป้าหมายผลตอบแทน ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดและความสำเร็จในครั้งนี้ ผู้จัดการกองทุน มีการคัดเลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและราคาหุ้นในปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน พร้อมทั้งจับจังหวะการเข้าลงทุน (Market timing) ได้ถูกช่วงเวลาที่เหมาะสม จึงส่งผลให้กองทุนสามารถบรรลุเป้าหมายการลงทุน ที่ 5% ภายในระยะเวลา 5 สัปดาห์
ในขณะที่โครงการกำหนดเป้าหมายสร้างผลตอบแทน 5% ภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.5555 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลาติดต่อกัน3 วันขึ้นไปและสินทรัพย์ของกองทุนที่จะซื้อคืนอัตโนมัติจะต้องเป็นเงินสด หรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด มูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนให้กับผู้ถือหน่วยต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 105 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาทต่อหน่วย) อย่างไรก็ตาม บริษัทจะแสวงหาจังหวะและโอกาสในการลงทุนที่ดี มานำเสนอให้กับนักลงทุนในโอกาสต่อไป