“CoinAsset” จ่อยื่นตั้งศูนย์ซื้อขายเงินดิจิทัล

“CoinAsset” หารือกลต.ขออนุญาตเป็นศูนย์ซื้อขายเงินดิจิทัล ยันพร้อมเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 200 ล้านบาททันที ชี้พ.ร.ก.เงินดิจิทัล ช่วยกระตุ้นการออก ICO และการซื้อขายเงินดิจิทัล

นายศิวนัส ยามดี ผู้ก่อตั้งบริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด (CoinAsset) ซึ่งดำเนินธุรกิจศูนย์กลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล (Exchange) เปิดเผยว่า CoinAsset พร้อมยื่นขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท สามารถเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 200 ล้านบาททันที หากประกาศก.ล.ต.กำหนดทุนจดทะเบียนขั้นต่ำมากกว่า 30 ล้านบาท

“เราได้เข้าไปพบกับก.ต.ล.แล้ว เพื่อขอทราบความชัดเจน โดยเราพร้อมยื่นขออนุญาตเป็นศูนย์ซื้อขายเงินดิจิทัล แต่ต้องรอให้ประกาศของก.ล.ต.มีผลบังคับใช้ก่อน โดยปัจจุบัน CoinAsset ได้วางระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆไว้พร้อมแล้ว ทั้งระบบการยืนยันตัวตน (KYC) และมาตรการป้องกันการฟอกเงิน (AML)”นายศิวนัสระบุ

นายศิวนัส มองว่า การออกพ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 จะสนับสนุนให้สตาร์สอัพออก ICO ในไทยเพิ่มขึ้น รวมทั้งกระตุ้นมูลค่าการซื้อขายโทเคนดิจิทัล คริปโทเคอร์เรนซีต่อวันด้วย เพราะแม้ว่ากรมสรรพากรจะหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% สำหรับกำไรที่ได้จากการซื้อขายเงินดิจิทัล และเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% แต่ถือเป็นอัตราที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นที่เก็บภาษีกำไรเงินดิจิทัล 40-50% ในขณะที่ตลาดซื้อขายเงินดิจิทัลในฮ่องกงได้รับการยกเว้นภาษี capital gain

“ในระยะสั้นการซื้อขายเงินดิจิทัลในตลาดเมืองไทยจะชะลอตัวลง เพราะรอความชัดเจนจากประกาศก.ล.ต. เช่น วิธีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ประกอบกับราคาเหรียญ JFin Coin ที่ราคาลดลงจาก 6.6 บาทเหลือ 3 บาท ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นไปบ้าง แต่ในระยะยาวไม่มีใครหยุดกระแสการลงทุนนี้ได้ โดยเฉพาะนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ไม่เล่นราคาทอง และ Forex จะเข้ามาเล่นในตลาดนี้กันมาก เพราะเปิดเทรด 24 ชั่วโมง แม้ว่าจะรู้ว่ามีความเสี่ยงสูงก็ตาม”นายศิวนัสกล่าว

นายศิวนัส กล่าวว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดเงินดิจิทัลอยู่ที่ 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการซื้อขายเงินดิจิทัลในไทยมีสัดส่วนคิดเป็น 0.04% โดยในเอเชียตะวันออกมีเพียง 3 ประเทศที่การมีกฎหมายรองรับ คือ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และไทย ซึ่งในเร็วๆนี้เกาหลีใต้จะเป็นอีกหนึ่งประเทศในย่านนี้ที่จะออกกฎหมายมารองรับการซื้อขายเงินดิจิทัล

สำหรับประเทศไทยมีศูนย์ซื้อขายเงินดิจิทัล หรือกระดานซื้อขายเงินดิจิทัลหลายกระดาน แต่มีกระดานที่ได้รับความนิยมมี 3 กระดาน คือ กระดานของ BX.in.th มีมูลค่าการซื้อขาย 150 ล้านบาทต่อวัน กระดานของ CoinAsset มูลค่าซื้อขาย 300 ล้านบาทต่อวัน มีเหรียญให้เทรด 4-5 เหรียญ รวมถึงเหรียญ JFin Coin ด้วย โดยแรงซื้อขายส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ และกระดานของ TDAX ซึ่งตอนนี้ค่อนข้างซบเซา