ดาวโจนส์ปิดร่วงหลังบอนด์ยีลด์พุ่ง

ดาวโจนส์ร่วงต่อ เฉียด 200 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งต่อ สัญญาณเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยชัดมากขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์(Dow Jones industrial average) ปิดตลาดวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ 24,706.41 จุดลดลง 193.00 จุด หรือ 0.78% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,711.450 จุดลดลง 18.68 จุดหรือ0.68% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,351.63 จุด ลดลง 59.69 จุด หรือ 0.81 % หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ(บอนด์ยีลด์)พุ่งแตะระดับสูงสุด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุด 3.09% ในรอบ 7 ปีนับตั้งแต่ปี 2011 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีก็ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2008 หลังจากที่ตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 0.3%และตัวเลขดัชนีภาคการผลิต(Empire State Manufacturing Index)เดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นแตะระดับ 20.1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ดังนั้นแม้ไม่มีสัญญานภาวะการเติบโตแบบร้อนแรง แต่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลาง(Fed) มีแนวโน้มที่จะชะลอการขยายตัวที่ของเศรษฐกิจด้วยการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้จากการใช้เครื่องมือ FedWatch ของ CME พบว่ามีโอกาสถึง 54% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ จากเดิมที่คาดว่าน่าจะมีโอกาส 51%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ มาปิดที่ 71.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์ ส่วส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 78.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์

ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิขเยอรมนีในไตรมาสแรกและการจ้างงานของอังกฤษไตรมาสแรกที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,722.98 จุด เพิ่มขึ้น 12.00 จุด,+0.16%

ดัชนี Stoxx Europe 600 index ปิดที่ 392.37 จุด เพิ่มขึ้น 0.18 จุด, +0.05%

ดัชนี DAX 30 ปิดที่ 12,970.04 จุด ลดลง 7.67 จุด,-0.06%

ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,553.16 จุด เพิ่มขึ้น 12.48 จุด, +0.23%