HoonSmart.com>>ดาวโจนส์บวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 หลังสหรัฐฯ ระงับเก็บภาษีเม็กซิโก ที่ประชุม G-20 ให้คำมั่นจะรักษาการเติบโตเศรษฐกิจโลก ส่งออกจีนเดือนพ.ค.พลิกมาโต 1.1% ตลาดติดตามการประชุมเฟด มิ.ย.ลุ้นลดดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 10 มิถุนายน 2562 ที่ 26,062.68 จุด เพิ่มขึ้น 78.74 จุด หรือ 0.30% ปรับขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 6 หลังจากสหรัฐฯ ระงับการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก ทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงในการจัดการกับผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
นักลงทุนยังรับข่าวการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศ G-20 ซึ่งให้คำมั่นว่าจะรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้า รวมทั้งการส่งออกของจีนเดือนพฤษภาคมขยายตัว 1.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่หดตัว 2.7% เดือนเมษายน ขณะที่การนำเข้าลดลง 8.5% จากปีก่อนหลังจากที่เพิ่มขึ้น 4.0% ในเดือนเมษายน ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นเป็น 41.65 พันล้านดอลลาร์ จากเกินดุล 13.84 พันล้านดอลลาร์เดือนเมษายน อย่างไรก็ตามความขัดแย้งทางการค้าสหรัฐฯ กับจีนยังคงครอบงำตลาด
นอกจากนี้ตลาดยังจับตาการประชุมวันที่ 18-19 มิถุนายนนี้ ท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลาง (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,886.73 จุด เพิ่มขึ้น 13.39 จุด, +0.47%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,823.17 จุด เพิ่มขึ้น 81.07 จุด, +1.05%
หุ้นยูไนเต็ดเทคโนโลยีส์ลดลง 3.1% หลังประกาศควบรวมกิจการกับเรย์ธอน โค ซึ่งจะกลายเป็นบริษัทใหญ่อันดับสองในธุรกิจยานอวกาศและยุทโธปกรณ์ เมื่อวัดจากยอดขาย หุ้นเรย์ธอน โคเพิ่มขึ้น 0.69%
หุ้นทาโบลว์ ซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้น 33.7% หลังจากประกาศยอมรับการซื้อกิจการจากเซลล์ฟอร์ซ หุ้นเซลล์ฟอร์ซลดลง 5.26%
หุ้นเมิร์คแอนด์โค เพิ่มขึ้น 0.02% หลังประกาศซื้อบริษัทยา ทิลอสในมูลค่าราว 773 ล้านดอลลาร์
หุ้นฟอร์ด มอเตอร์เพิ่มขึ้น 0.61% หุ้นเจนเนอรัลมอเตอร์เพิ่มขึ้น 1.47%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกจากการประกาศระงับการเก็บภาษีสินค้าเม็กซิโกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมที่จะมีผลในวันที่ 10 มิถุนายน รวมทั้งรับข่าวการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศ G-20 หลังนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะพิจารณาว่าจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากที่พบปะกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน ระหว่างการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G-20 ปลายเดือนนี้
การประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศ G-20 เมื่อวันอาทิตย์มีความเห็นว่าความตึงเตรียดทางการค้าและการเมืองระหว่างประเทศรุนแรงขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก เรียกร้องให้แก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ร้าวลึก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,375.54 จุด เพิ่มขึ้น 43.60 จุด, +0.59%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 378.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.79 จุด, +0.21 %
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,382.50 จุด เพิ่มขึ้น 18.45 จุด, +0.34%
ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ
ในอังกฤษ สำนักงานสถิติแห่งชาติเผย เศรษฐกิจเดือนเมษายนหดตัว 0.4% จากที่ติดลบ 0.1% ในเดือนมีนาคม เป็นผลจากการผลิตรถยนต์ที่ลดลงถึง 24% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1995 ขณะเดียวกันอังกฤษได้ทำข้อตกลงเบื้องต้นเขตการค้าเสรีกับเกาหลีใต้ เพื่อให้มีผลต่อเนื่องหลังถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป
หุ้นเฟียตไคร์สเลอร์เพิ่มขึ้น 2% หลังบริษัทสตาร์ตอัพ ออโรร่า ตกลงที่จะพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับยานยนต์ไร้คนขับ หุ้นเรย์โนลด์เพิ่มขึ้น 2.3%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง 73 เซนต์ปิดที่ 53.26 ดอลลาร์
ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมลดลง 1 ดอลลาร์ปิดที่ 62.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล