BJC ถูกหั่นราคาเป้าหมายเหลือ 50-54 บาท

HoonSmart.com>>หุ้น  BJC ลงต่อ   4%  นักวิเคราะห์แนะนำซื้อ-ถือ  ปรับลดราคาเป้าหมายลง จากลูกค้ากระป๋องอลูมิเนียมหายไป  ผลกระทบจากเร่งเปิดสาขา mini BIGC  เคทีบีแนะให้โยกไปซื้อ CPALL แทน ส่วน บล.กสิกรไทยคาดราคาสะท้อนปัจจัยลบแล้ว

วันที่ 31 พ.ค.  BJC ร่วงลงมาจาก 50 บาท มาอยู่ที่ 46 บาท หรือรูดลง 4% จากวันก่อน หลังพบนักวิเคราะห์ ให้คำแนะนำ”ถือ” และ”ซื้อ” โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ปรับคำแนะนำเหลือ “ถือ” ปรับลดราคาเป้าหมายจาก 62 บาท เหลือ 50 บาท/หุ้น เจอค่าใช้จ่ายบริหาร miniBIGC และธุรกิจบรรจุภัณฑ์กดดัน ปรับกำไรปี2562 ลง 7% อยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท ลดลง 1.8% จากปีก่อน

เรามีมุมมองเป็นลบจากการประชุมนักวิเคราะห์ ยอดขายของธุรกิจ packaging ยังคงลดลง 6% เพราะต้องใช้เวลาในการหาลูกค้ากระป๋องอลูมิเนียมมาชดเชยลูกค้าเก่าซึ่งลดคำสั่งซื้อลง ขณะที่การเร่งเปิดสาขา mini BIGC ในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าราคาหุ้นในระยะนี้จะถูกกดดันจากธุรกิจ Packaging ที่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวและการขยายสาขา miniBIGC ที่มีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสูง และแนะนำ switch ไป CPALLให้ราคา เป้าหมาย 85 บาท

บล.กสิกรไทย แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 54 บาทหลังปรับลดลงจาก 60 บาท ปรับลดประมาณการกำไรปี 2562-64 ลง 2.1-2.6% หลังจากได้ปรับลดสมมติฐานการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เป็น 1.0% ในปี 2562 และจากผลกระทบที่ยืดเยื้อจากการสูญเสียคำสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์ประเภทกระป๋องจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าประเด็นดังกล่าวได้สะท้อนผ่านราคาปิดล่าสุดไปแล้ว เพราะจะเห็นว่ามีมูลค่าการซื้อขายกันที่ 27.2 เท่าต่อกำไรต่อหุ้น ของปี 2562 และเพียง 25.5 เท่าต่อ กำไรต่อหุ้นปี 2563 ซึ่งคิดเป็นระดับที่ใกล้เคียง -1.0SD ต่อค่าเฉลี่ย PER ล่วงหน้าในอดีตของ BJC ขณะที่เรายังคาดว่าบริษัทจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ด้านกำไรธุรกิจหลักช่วง 3 ปีที่ 8.9%

บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 61 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 คล้ายไตรมาส 1 กำไรสุทธิเติบโตเล็กน้อย แต่กำไรปกติยังโตดีเกิน 10% ครึ่งปีหลัง ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และธุรกิจ BIGC คาดจะมียอดขายที่ดีขึ้นมาก  เป็นหุ้น Laggard ในกลุ่มค้าปลีก ที่กำไรปกติยังเติบโตดีต่อเนื่อง คาดปีนี้ยังเติบโต 15.3%