AIS กำไร 7,570 ล้านบ. ตอกย้ำผู้นำดิจิทัลแพลตฟอร์ม

AIS  ไตรมาสแรกกำไร  7,570 ล้านบาท ครองแชมป์ส่วนแบ่งตลาดสูงสุดต่อเนื่อง  เบอร์ 1 โทรศัพท์เคลื่อนที่ กว่า 3.53 แสนเลขหมาย โชว์เน็ตบ้าน..ท็อปฟอร์ม ลูกค้าทะยานกว่า 6.45 หมื่นราย สูงสุดในรอบ 7 ไตรมาส ตอกย้ำผู้นำดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อคนไทย 

 บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ( ADVANC ) หรือ AIS รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 / 2562 กำไรสุทธิ 7,570 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.55 บาท ลดลง 467.28 ล้านบาท หรือ 5.81 % เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 8,037.30 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.70 บาท

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVANC กล่าวว่า ไตรมาสแรก มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 7.1 % เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 1.7 % เทียบไตรมาสก่อน และมีกำไรสุทธิ 7,570 ล้านบาท ลดลง 5.81 % แต่เพิ่มขึ้นกว่า 11 % เทียบไตรมาสก่อนหน้า และเป็นผู้นำส่วนแบ่งการตลาดเชิงรายได้มากที่สุด ในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่กว่าร้อยละ 48 ซึ่งปัจจุบันเอไอเอส มีลูกค้า 4G เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นร้อยละ 63 ของฐานลูกค้าทั้งหมดกว่า 41.5 ล้านเลขหมาย

ไตรมาสแรก การใช้งานดาต้าเพิ่มเป็น 11.4 กิกะไบต์ จาก 7.6 กิกะไบต์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีลูกค้าระบบรายเดือนเติบโตสูงสุดในรอบ 11 ไตรมาส จำนวน 353,900 เลขหมาย ครองส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอันดับ 1 ขณะที่ธุรกิจเน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ สร้างปรากฎการณ์ปิดไตรมาสแรก ปี 62 ด้วยจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 64,500 ราย สูงที่สุดในรอบ 7 ไตรมาส

“อุตสาหกรรมโทรคมนาคม ยังเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ ซึ่ง AIS มีเป้าหมายการเป็น Digital Life Service Provider คือ มุ่งมั่นพัฒนาโครงข่ายทั้ง Mobile, Fixed Broadband และโซลูชั่นส์ ดิจิทัลต่าง ๆ ที่ดีที่สุด  รวมถึงพัฒนาองค์กรและบุคลากร ให้มีขีดความสามารถ สอดคล้องกับการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน เพื่อสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้แก่ลูกค้า ตลอดจนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ ”

ล่าสุดปีนี้ AIS ได้รับการยอมรับจากหลากหลายหน่วยงานสำคัญระดับโลก อาทิ Brand Finance จัดอันดับให้เป็น “World’s Strongest Telecoms Brand” หรือ “แบรนด์โทรคมนาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก” จากการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม การลงทุนทางการตลาดอย่างสมเหตุสมผล ผลประกอบการที่แข็งแกร่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ที่สำคัญ ASI เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ Game Changer ในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ที่ประกาศพลิกโฉมวงการเน็ตบ้าน ด้วยแนวคิด “เร็วกว่า ดีกว่า ง่ายกว่า” รายแรกในไทยที่ดูแลลูกค้าแบบครบวงจร ซึ่งตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เอไอเอส ไฟเบอร์ ถือเป็นผู้ให้บริการเน็ตบ้านที่มาแรงและกวาดลูกค้าใหม่เข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกันได้อย่างรวดเร็ว จากการออกแบบนวัตกรรมแพ็คเก็จและสร้างสรรค์งานบริการคุณภาพที่แตกต่าง ตอบโจทย์ความต้องการอย่างหลากหลาย

AIS ยังเป็นเครือข่ายเดียวที่ได้รับการจัดอันดับจาก Netflix ISP Speed Index ให้เป็นอันดับที่ 1 ของอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์ติดต่อกันถึง 2 ปีซ้อน พร้อมเป็นเพียงรายเดียวเช่นกันที่มอบประสบการณ์ชม Netflix ได้อย่างสะดวกสบายผ่านเมนูในกล่อง AIS PLAY BOX โดยในไตรมาสแรก ปี 2562 เอไอเอส ไฟเบอร์ มีจำนวนลูกค้าอยู่ที่ 795,000 ราย ครอบคลุมการใช้งานในพื้นที่ 57 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีลูกค้าเพิ่มขึ้นจำนวน 64,500 ราย สูงที่สุดในรอบ 7 ไตรมาสที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน AIS ได้รุกขยายบริการดิจิทัลเซอร์วิส เชื่อมโยงอุตสาหกรรมต่าง ๆ  ซึ่งไตรมาสที่ผ่านมา ได้เปิดตัวบริการ AIS Insurance Service ดำเนินธุรกิจโบรกเกอร์
ประกันภัยทางออนไลน์ พัฒนาบริการ Mobile Money ภายใต้ความร่วมมือกับ LINE และ VGI ที่คนไทยนิยมใช้บริการมากเป็นอันดับ 1 ในชื่อบริการ Rabbit LINE Pay ซึ่งมีลูกค้าลงทะเบียนใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การปฏิวัติรูปแบบงานบริการอย่างสอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้ายุค Gen C ผ่าน AIS DigitALL Shop ด้วยแนวคิด “The Unmanned Store” แห่งแรกในประเทศไทย

พร้อมนำเทคโนโลยี AI มายกระดับ Virtual Agent เพื่อให้บริการลูกค้าได้ครบทั้ง Offline และ Online แบบ Full Service Digitization รวมถึงการผนึกกำลังกับ China Unicom ประกาศความร่วมมือระดับทวิภาคี เสริมศักยภาพบริการ ICT ครบวงจร ขยายฐานการรองรับลูกค้าระหว่างไทย-จีน เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในระดับภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อการให้บริการกลุ่มลูกค้าองค์กร

นายสมชัย กล่าวถึงภาพรวมปี 2562 คาดการณ์การเติบโตของรายได้จากการให้บริการหลัก จะเติบโตด้วยอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง (mid-single digit) เมื่อเทียบกับปีก่อน และตั้งเป้าอัตรากำไร EBITDA ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ประมาณร้อยละ 43 พร้อมจัดสรรงบลงทุนมูลค่า 20,000 – 25,000 ล้านบาท ในการพัฒนาคุณภาพและเสริมประสิทธิภาพโครงข่ายเพื่อรองรับการใช้งานและมอบประสบการณ์ใช้งานที่เป็นเลิศให้แก่ลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากแนวทางทั้งหมดที่กล่าวมา เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าจะสามารถรักษาความเป็นเบอร์ 1 และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจดิจิทัลของชาติได้ต่อไป