VRANDA เทรดเกิน 10 บาท ธนชาตชูพีอี 13 เท่าต่ำกว่า MINT-ERW-CENTEL

HoonSmart.com>>วีรันดา รีสอร์ทน้องใหม่ตลาดหลักทรัพย์ เข้าซื้อขาย 3 พ.ค. คาดราคาสูงกว่าไอพีโอที่ขาย 10 บาท บล.ธนชาตชูจุดแข็ง P/E , P/BV และ ROA เหนือคู่แข่ง  บล.บัวหลวงที่ปรึกษามั่นใจ เพราะเน้นกระจายสถาบัน ผู้ถือหุ้นเดิมยอมล็อคหุ้น หุ้นหมุนเวียนไม่มาก  ผลงานปี 2561 โกยกำไร 235 ล้านบาท พุ่งขึ้น 960% 

บริษัท วีรันดา รีสอร์ท (VRANDA)จะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 3 พ.ค.2562 นี้ นักวิเคราะห์คาดว่าราคาวันแรกจะปรับตัวขึ้นสูงกว่าราคาไอพีโอที่ 10 บาท พาร์หุ้นละ 5 บาท เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 75 ล้านหุ้น

บล.ธนชาตออกบทวิเคราะห์หุ้น VRANDA ที่มีประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจโรงแรมกว่า 15 ปี ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ “วีรันดา รีสอร์ท”และขยายธุรกิจสู่อสังหาริมทรัพย์ โดยเปรียบเทียบราคาขายไอพีโอที่ 10 บาท กับราคาหุ้น ณ วันที่ 30 เม.ย. 2562ของบริษัทที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน พบว่า VRANDA มีพี/อี 13.56 เท่า ดีกว่า MINT ที่ 31.81 เท่า CENTEL 26.50 เท่า และ ERW 32.55 เท่า

ขณะเดียวกัน ยังมี พี/บีวี 1.83 เท่า ดีกว่า MINT 2.41 เท่า CENTEL 4.47 เท่า และ 3.15 เท่าของ ERW  รวมถึงอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น(ROE) อยู่ที่ 18.89 % สูงกว่า MINT และ ERW ที่ 9% เศษ แต่น้อยกว่า CENTEL มี 17.42 %

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน  มั่นใจว่าหุ้น VRANDA จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตและเป็นหนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจ   การกระจายหุ้นเน้นขายนักลงทุนสถาบัน ส่วนผู้ถือหุ้นเดิมทุกรายที่ถือหุ้นมากกว่า 1 แสนหุ้นขึ้นไป ตกลงที่จะล็อคตามกฎหมาย ส่งผลให้หุ้นกระจายในตลาดรอบนี้เพียง 24%

บริษัท วีรันดา รีสอร์ท แจ้งผลการดำเนินงานประจำปี 2561 มีกำไรสุทธิ 235.77 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.96 บาท เพิ่มขึ้น 960% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักที่ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาจากจำนวนห้องชุดที่โอนกรรมสิทธิ์ของโครงการวีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา มากกว่าปี 2560

ในปี 2561 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 2,431.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.44% มาจากกิจการโรงแรมจำนวน 1,316.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.99% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการอื่นๆ เช่น รายได้จากการให้บริการสปา เป็นต้น รายได้จากกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 1,053.20 ล้านบาท คิดเป็น 43.32% ของรายได้ จากปีก่อนมีสัดส่วนเพียง 22.31% โดยขายโครงการอาคารชุดพักอาศัยประเภท Low Rise และ High Rise ส่วนรายได้จากกิจการร้านอาหารและเครื่องดื่มมีจำนวน 20.53 ล้านบาท เติบโต 168% จากการเปิดให้บริการร้านอาหาร ขนมหวานและเครื่องดื่มเพิ่ม 2 ร้าน ภายใต้ KOF สาขาชั้น G ของโรงแรมโซ โซฟิเทล แบงค็อกและสาขาทองหล่อ

ขณะที่ต้นทุนกิจการโรงแรม ลดลงเหลือ 821,54 ล้านบาท หรือ 1.62% จากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนห้องพักลดลง ส่วนต้นทุนของกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 705.81 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 286.68 ล้านบาท เนื่องจากมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการวีรัดา เรสซิเดนซ์ พัทยา 175 ยูนิต ทำให้ยอดโอนสะสมโครงการ 239 ยูนิต