ผู้ถือหุ้นไอเฟค ร้องศาลแพ่งช่วยดับวิกฤติ เบิกทางบอร์ดชุดใหม่ เข้าบริหาร เคลียร์สารพัดปัญหา หลังหมอวิชัย ขอคุ้มครองชั่วคราว สกัดบอร์ดใหม่เข้าทำหน้าที่
ผู้ถือหุ้น บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น ( IFEC ) เปิดเผยว่า ผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้ IFEC ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เพื่อให้กรรมการชุดใหม่ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการ แก้ไขปัญหาที่วิกฤต ขณะนี้
ทั้งนี้เนื่องจาก นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตประธานกรรมการ IFEC ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ในคดีหมายเลขดำที่ พ.7611/2561 ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา เพื่อไม่ให้กรรมการชุดใหม่ปฏิบัติหน้าที่ โดยศาลแพ่งได้นัดไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวไปเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 และนัดฟังคำสั่งในวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 นี้
โดยเนื้อหาระบุว่า นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ที่ถูกคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ ถึง 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2560 กรณีกระทำโดยทุจริตโดยแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น โดยการใช้วิธีการลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ครั้งที่สอง วันที่ 26 ก.พ. 2561 กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตไม่เปิดเผยข้อมูลการผิดนัดชำระตั๋วแลกเงิน จนเป็นเหตุให้หุ้น IFEC ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP ตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. 2560 และบริษัทไม่จัดทำงบการเงินตั้งแต่ปี 2560 ไม่จัดทำงบการเงินรายไตรมาส ไม่แต่งตั้งผู้สอบบัญชี ไม่มีกรรมการตรวจสอบ จนถึงขั้นทำให้ IFEC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
นอกจากนี้ บริษัทย่อยของ IFEC ประมาณ 45 บริษัท ที่ IFEC ถือหุ้นเกิน 90 % ซึ่งนายวิชัย ยังเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ สามารถบริหารผลประโยชน์จากบริษัทย่อย IFEC ได้ต่อไป เนื่องจาก คำสั่งกล่าวโทษของ ก.ล.ต. มีผลเฉพาะการห้ามไม่ให้นายวิชัย เป็นกรรมการในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือ IFEC เท่านั้น แต่ไม่สามารถปลดนายวิชัย ออกจากการเป็นกรรมการในบริษัทย่อยของ IFEC ได้
” บริษัท IFEC มีปัญหาสะสมมานาน ปัญหาคดีความฟ้องร้องหลายสิบคดี ล้วนมีนายวิชัยเข้าไปเกี่ยวข้อง ปัจจุบันนายวิชัย เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยเพียง 3 แสนหุ้น หากมีเจตนาสุจริตจริง ควรพิจารณาปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น แต่ที่ผ่านมาเห็นชัดเจนว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ หากมีวิจารณญาณของวิญญูชนที่ดี ควรเปิดโอกาสให้กรรมการชุดใหม่ ที่ได้รับคัดเลือก จากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามฉันทามติที่ถูกต้อง และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 % ได้เข้าบริหารและแก้ไขปัญหาที่สะสมมาตลอดเกือบ 3 ปี”
ผู้ถือหุ้นไอเฟค มีความกังวลว่า หากแก้ปัญหาไม่ทันสถานการณ์วิกฤตขณะนี้ จะส่งผลกระทบวงกว้างกับเศรษฐกิจและผู้ถือหุ้นกว่า 3 หมื่นราย จึงได้ร้องขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เพื่อให้กรรมการชุดใหม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่แก้ไขปัญหาได้ทันกับสถานการณ์ที่เร่งด่วน
สำหรับคณะกรรมการ (บอร์ด ) ชุดใหม่ ภายใต้การนำของนายทวิช เตชะนาวากุล ประธานกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 1 สัดส่วน 10 %