BCPGกำไรร่วง22%

บีซีพีจี ไตรมาสแรกรายได้โตแค่ 0.4% ขณะที่กำไรลดลง 22% เหตุต้นทุนเพิ่ม-ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน-ตัดจำหน่ายของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน

บริษัท บีซีพีจี (BCPG) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2561 โดยระบุว่า มีรายได้รวม 803 ล้านบาท ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 820 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิลดลงเหลือ 351 ล้านบาท หรือลดลง 22.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 453 ล้านบาท

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ BCPG เปิดเผยว่า รายได้จากการขายไฟฟ้าไตรมาสแรกอยู่ที่ 801ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 797 ล้านบาทนั้น เป็นเพราะประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2560 ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนในญี่ปุ่นมีหิมะตกหนักและยาวนานผิดปกติ ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็ง ทำให้รายได้จากโครงการในญี่ปุ่นต่ำกว่าที่ควรจะเป็น แม้ว่ากำลังผลิตไฟฟ้าในญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรายได้อื่นๆของบริษัทลดลงเหลือเพียง 2.24 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อื่นๆ 22.13 ล้านบาท ทำให้รายได้รวมไตรมาสนี้ลดลง 2%
สำหรับกำไรสุทธิที่ลดลงเหลือ 351 ล้านบาทนั้น มาจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 13 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวมที่เพิ่มขึ้นเป็น 209 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายจ่ายรวม 175 ล้านบาท และค่าตัดจำหน่ายของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน 134 ล้านบาท

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2561 กลุ่มบริษัทมีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 32,452 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2560 สำหรับหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 17,032 ล้าน หรือเพิ่มขึ้น 0.02% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2560 และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1.21 เท่า ลดลงเล็กน้อยจาก 1.23 เท่า ณ สิ้นปี 2560

นายบัณฑิต กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะเติบโตต่อเนื่องทั้งจากธุรกิจปัจจุบัน เช่น การเติบโตจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น การร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจจากหลายภาคส่วน การร่วมพัฒนากลยุทธ์การดำเนินงานกับโครงการที่บริษัทฯ เข้าร่วมลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเชีย และการเติบโตจากการเข้าซื้อกิจการหรือร่วมทุน รวมถึงจากการลงทุน