แอลเอชฟันด์ ผนึก INVESCO จัดพอร์ตลงทุนทั่วโลกเสิร์ฟลูกค้า

HoonSmart.com>>บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ควง LH BANK ผนึก INVESCO ผู้จัดการกองทุนระดับโลก เพิ่มศักยภาพและโอกาสลงทุนทั่วโลก ประเดิมจัดพอร์ตลงทุนระยะยาวให้ลูกค้า หวังผลตอบแทน 4-6% ต่อปี สำหรับกลุ่มรับความเสี่ยงได้ปานกลาง ก่อนเสิร์ฟลูกค้าทั่วไป แนะจังหวะเก็งกำไรหุ้นไทยรับรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้าน INVESCO ชูตลาดเกิดใหม่น่าสนใจ

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHFUND) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ร่วมกับธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHBANK) และ INVESCO Asset Management ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนระดับโลก ลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสการลงทุนทั่วโลก แบบไร้ขีดจำกัด โดย INVESCO จะส่งทีมงานร่วมเป็นคณะกรรมการจัดสินทรัพย์ลงทุน เพื่อจัดพอร์ตการลงทุนตอบโจทย์ระยะยาวให้กลุ่มลูกค้าสำหรับผลตอบแทนประมาณ 4-6% ต่อปี

ปัจจุบัน INVESCO มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ 954.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีสาขาในประเทศต่างๆ รวม 25 ประเทศ มีประวัติการบริหารการลงทุนกว่า 50 ปี

“เบื้องต้นจะให้บริการลูกค้ากลุ่ม Wealth หรือ High Net Worth ของ LHBANK ที่รับความเสี่ยงได้ในระดับกลางๆ ก่อน หลังจากนั้นมีแผนออกเป็นกองทุนรวม เพื่อให้บริการแก่นักลงทุนทั่วไป ซึ่งเชื่อว่าจุดเด่นและความเชี่ยวชาญของ INVESCO ในเรื่อง Multi-asset Management นับเป็น Strategic Partner ที่จะสะท้อนกลับมาเป็นประโยชน์ให้ลูกค้า และทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจเหมือนกับมีตัวแทนอยู่ในตลาดต่างประเทศ ทำให้ทันต่อสถานการณ์การลงทุนในตลาดที่สำคัญๆ และปรับพอร์ตทุกไตรมาส อีกทั้ง INVESCO จะใช้ Capital markets assumptions สมมติฐานการลงทุนระยะยาวถึง 10 ปี ซึ่งกองทุนในประเทศที่ใช้กันคือ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ทำให้มองภาพได้ในระยะยาว”นายมนรัฐ กล่าว

พร้อมมองว่า การวางแผน Asset Allocation ที่ดีจะช่วยลูกค้าในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน หรือท่ามกลางข่าวเหตุการณ์ที่มีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดหุ้น เห็นได้จากช่วงที่่ผ่านมาตลาดหุ้นขึ้นลงตามความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว, สงครามการค้า, นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งหากกองทุนมีการทำ Asset Allocation ที่ดีสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์มีการวิเคราะห์ถึงความผันผวนและมีการลงทุนในหลายๆ Asset class จะให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับความเสี่ยง

นายมนรัฐ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมการลงทุนมองตราสารทุนน่าสนใจ โดยในส่วนของหุ้นไทยยังเข้าเก็งกำไรได้ในช่วงก่อนการจัดตั้งรัฐบาลในช่วงเวลานี้ แต่อาจต้องรอจังหวะตลาดย่อตัว และอีกรอบหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เรียบร้อยแล้ว เพราะเชื่อว่าทุกรัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต จึงมองหุ้น 3 กลุ่มที่น่าสนใจ ได้แก่ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโครงการการลงทุน กลุ่มที่อยู่อาศัยและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน

“P/E ตลาดหุ้นไทยในปี 62 อยู่ที่ 16 เท่า คาดการณ์ EPS อยู่ที่ 109 บาท/หุ้น ส่วนเป้าหมายดัชนีในสิ้นปีอาจต้องรอดูผลประกอบการในไตรมาส 2/62 ออกมาก่อน เพราะเป็นช่วงที่ผลงานชะลอมากสุด โดยเฉพาะการบันทึกต้นทุนค่าจ้างพนักงาน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม”นายมนรัฐ กล่าว

สำหรับมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ของบลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าขยายสินทรัพย์เพิ่ม 1-2 หมื่นล้านบาท โดยไม่เน้นออกกองทุนมากนัก แต่จะเน้นคุณภาพมากกว่า

นายเทอรี่ แพน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำภูมิภาคเอเชีย INVESCO Asset Management เปิดเผยว่า มุมมองการลงทุนในระยะสั้นปีนี้ไปจนถึงปีหน้ามองหุ้นยังน่าสนใจ โดยเฉพาะตลาดหุ้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) แต่ต้องเลือกในบางตลาดและแต่ละประเภทสินทรัพย์ ซึ่งเป็นโอกาสในการเลือกลงทุน หลังจากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยมีน้อยลง ในขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจโลกไม่ได้ร้อนแรงมาก แต่ยังมีการเติบโตอยู่ ซึ่งตลาดเกิดใหม่และจีนก็ปรับตัวดีขึ้น

สำหรับการลงทุนในทองคำมองกลางๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง พร้อมมองราคาน้ำมันปีนี้น่าจะอยู่ระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยประเด็นที่ต้องติดตามมากขึ้น คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ และการปรับขึ้นค่าแรงงาน